หลายปีมานี้เทรนด์ขาวใสแบบเกาหลีมาแรง จึงทำให้สาวไทยใส่ใจในผิวพรรณเป็นพิเศษ การที่จะทำให้ผิวขาวกระจ่างใสได้นั้นไม่ใช่เพียงแค่ทาโลชั่นที่ผสมวิตามินบำรุงผิวอย่างเดียว แต่ยังต้องเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมถึงวิตามินเสริมซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับสาวๆ ยุคใหม่อีกด้วย วิตามินผิวขาวที่เรารู้จักกันอยู่แล้ว เช่น วิตามินซี สังกะสี Grape Seed Co-enzyme Q10 และ Evening primrose oil
วิตามินซี
วิตามินซีเป็นวิตามินที่มีจำหน่ายหลายรูปแบบ เช่น แบบเม็ด แคปซูล ลูกอม เม็ดแบบแตกตัวช้า แบบผง แบบเคี้ยวและน้ำเชื่อม วิตามินซีมีบทบาทสำคัญในการสร้างคอลลาเจนเพื่อช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ และลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัย หากรับประทานเป็นประจำจะช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส เนียนนุ่มอย่างเป็นธรรมชาติดังนั้นจึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นวิตามินผิวขาว นอกจากนั้นยังช่วยป้องกันโรคหวัดและโรคเลือดออกตามไรฟัน และยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดอีกด้วย โดยขนาดที่แนะนำให้รับประทานต่อวันสำหรับวิตามินซีเสริมอาหารคือ 500-4000 มิลลิกรัม
สังกะสี
สังกะสีหรือซิงค์เป็นตัวช่วยควบคุมให้กระบวนการต่างๆ ในร่างกายดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ สังกะสีช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตให้กับร่างกายโดยเป็นส่วนสำคัญในการสร้างโปรตีนและคอลลาเจน และที่สำคัญช่วยในการรักษาสิว บรรเทาอาการอักเสบของสิวโดยที่สังกะสีไปรักษาสมดุลของปริมาณไขมันในผิวหนัง ช่วยควบคุมปัญหาการเกิดสิวอุดตันของไขมันซึ่งทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใส นอกจากนี้ยังช่วยลดระยะเวลาการเจ็บป่วยและบรรเทาอาการของโรคหวัด รวมถึงมีความสำคัญต่อความเสถียรของเลือด และควบคุมสมดุลกรดด่างในร่างกายอีกด้วย อย่างไรก็ตาม สังกะสีจะทำงานร่วมกับวิตามินเอ แคลเซียม และฟอสฟอรัส ส่วนไฟเทตจะทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมสังกะสีได้ดังนั้นจึงไม่ควรรับประทานไฟเทตพร้อมกันกับสังกะสี ขนาดที่แนะนำให้รับประทานสำหรับผู้ใหญ่ต่อวันคือ 12-15 mg และไม่แนะนำให้รับประทานเกินกว่า 150 mg ต่อวัน
Grape Seed
อาหารเสริม Grape Seed หรือสารสกัดจากเมล็ดองุ่นเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการทำลายคอลลาเจน ดังนั้นจึงช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวพรรณ ช่วยให้ผิวกระจ่างใสดูเป็นธรรมชาติ ช่วยให้ผิวหน้าเนียนใส ชะลอริ้วรอยแห่งวัยได้อย่างดีเยี่ยม สาร OPCs ในเมล็ดองุ่นซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยยับยั้งการเกิดเม็ดสีเมลานินที่มีมากเกินความจำเป็นซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดกระ ฝ้า และความหมองคล้ำบนใบหน้าอีกด้วย นอกจากนี้สารสกัดจากเมล็ดองุ่นนี้สามารถทำงานร่วมกับคอลลาเจนได้ดีซึ่งเป็นโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบของผิวหนัง หลอดเลือดและอวัยวะต่างๆ จึงทำให้เซลล์ผิวหนังแข็งแรงไม่เหี่ยวย่น หลอดเลือดมีความยืดหยุ่นดี ไม่เปราะหรือแตกง่าย
Co-enzyme Q10
โคเอนไซม์คิวเทน หรือ คิวเทนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบได้ในทุกเซลล์ของสิ่งมีชีวิต มีความสำคัญอย่างมากต่อการสร้างพลังงาน แหล่งที่พบโคเอนไซม์คิวเทนตามธรรมชาติ ได้แก่ ไข่ เนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ และอื่นๆ อีกมากมาย คิวเทนมีบทบาทสำคัญในการช่วยลดริ้วรอยและชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง นอกจากนั้นยังช่วยรักษาโรคเหงือก ชะลอความผิดปกติและการดำเนินของโรคพาร์กินสันได้
Evening primrose oil
ในเมล็ดของ evening primrose มีน้ำมันที่อุดมไปด้วยกรดไขมันถึงสองชนิดซึ่งล้วนเป็นกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายต้องการเพื่อประโยชน์ในการทำงานของอวัยวะต่างๆ กรดไขมันชนิดแรกคือกรดไลโนลิอิค (Linoleic acid)ซึ่งเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งในชั้นไขมันในร่างกายมนุษย์ ดังนั้นหากมีกรดไขมันดังกล่าวอยู่ในร่างกายจึงมีส่วนช่วยในการป้องกันไม่ให้ผิวหนังเกิดอาการแห้งเป็นขุย หรือหยาบกร้านได้ ส่วนกรดไขมันชนิดที่สองมีชื่อว่ากรดแกมมาลิโนเลนิก (Gamma linolenic acid)โดยกรดไขมันชนิดนี้กฎอยู่ในน้ำมันอิฟนิ่งพริมโรสสูงถึง 7-10% ซึ่งช่วยชดเชยเอนไซม์ที่ร่างกายขาดหายไปส่งผลให้ร่างกายสามารถต่อต้านการอักเสบในร่างกายได้ รวมถึงให้สามารถบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้หลากหลายประการ เช่น ช่วยขยายหลอดเลือด ช่วยบำรุงเส้นผม ช่วยเพิ่มความเปล่งปลั่งให้แก่ผิวพรรณ และช่วยลดอาการคันตามผิวหนังจากการขึ้นผื่น