กรอผิวหน้า

ชื่ออื่น ๆ : กรอผิว, กรอหน้า  

กรอผิวหน้า คืออะไร ทำไมต้องกรอผิวหน้า?

การกรอผิว (Skin Peeling) เป็นวิธีการลอกผิวที่แพทย์ผิวหนังในปัจจุบันเลือกใช้เพื่อแก้ปัญหาผิวหน้า และฟื้นฟูสภาพผิวให้สดใสขึ้น การกรอหน้ามีให้เลือกหลายวิธี ทั้งการใช้เลเซอร์ การใช้สารเคมี และการใช้เกร็ดอัญมณี เพื่อกระตุ้นให้ชั้นหนังกำพร้าหลุดออกไป แล้วจะมีการสร้างผิวหนังใหม่ขึ้นมาทดแทน ซึ่งจะแลดูกระจ่างใสกว่าเดิม   การกรอผิวด้วยเลเซอร์ เป็นการกระตุ้นให้ผิวเดิมลอกออกแล้วมีการสร้างผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน ซึ่งจะเน้นกำจัดรอยแผลเป็น แผลจากสิว รอยย่น รอยตีนกาลึก รอยย่นมุมปาก และรอยย่นตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น กาลอกผิวแบบนี้ไม่สามารถทำให้ผิวสวยอย่างสมบูรณ์แบบได้ แต่จะเป็นการรักษาเพื่อเน้นปรับปรุงสภาพผิวให้ดีขึ้น โดยในการรักษาอาจใช้เวลานานถึง 2 ชั่วโมง   การกรอผิวด้วยสารเคมี การลอกผิวด้วยสารเคมี เป็นวิธีการหนึ่งที่ใช้ในการปรับปรุงสภาพผิวโดยการใช้สารเคมีที่มีผลทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดออก และเมื่อเซลล์เก่า ๆ โดนลอกออกไปแล้ว ผิวหนังจะสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมา ผิวจะนุ่มนวลกว่าเดิม และมีรอยเหี่ยวย่นน้อยลง อาจมีบางครั้งที่ผิวหนังอาจมีการอักเสบจากการใช้สารเคมี เพราะในชั้นผิวหนังจะมีการหลั่งสารบางชนิดไปกระตุ้นให้มีการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนในชั้นหนังแท้เพิ่มมากขึ้น การกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี การกรอผิวหนังในส่วนของหนังกำพร้าออกไปบางส่วน โดยใช้การพ่นเกร็ดคริสตัล (Crystal) ซึ่งทำด้วยผลึกอลูมิเนียมออกไซต์ที่มีขนาดเล็กเท่ากับทรายละเอียดและผ่านการฆ่าเชื้อโรคแล้ว หรืออาจใช้เกร็ดของเพชร พร้อมแสง LED มากระตุ้นการสร้างผิวใหม่ ซึ่งการกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณีให้ผลดีกว่ากรอหน้าแบบอื่นถึง 3 เท่า ทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพและขจัดสิ่งตกค้างอุดตันผิวให้หมดไป จึงรักษาให้รอยหลุมสิวตื้นขึ้น รูขุมขนกระชับเนียนเรียบ การเกิดสิวลดลง และรอยแผลต่าง ๆ ดีขึ้น ส่วนรอยด่างดำจากฝ้า กระ และริ้วรอยต่าง ๆ จะจางลงเมื่อรักษาต่อเนื่อง 6-10 ครั้ง   จะเกิดอะไรขึ้นขณะกรอผิวหน้า ในวันที่มารักษาให้งดแต่งหน้า และก่อนทำจะต้องทำความสะอาดใบหน้า ถ้าแต่งหน้ามาจะต้องล้างเครื่องสำอางออกให้หมดและล้างใบหน้าให้สะอาด เพื่อสะดวกในการตรวจสภาพผิวหน้าที่แท้จริง และพิจารณาให้การรักษาที่เหมาะสม ขั้นตอนการทำนับตั้งแต่การเตรียมผิวจนกระทั่งเสร็จสิ้นกระบวนการใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที ถ้าต้องการให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพเต็มที่ ควรรักษาประมาณ 8-10 ครั้ง โดยแต่ละครั้งห่างกันประมาณ 7-10 วัน     ผลข้างเคียงจากการกรอผิวหน้า การกรอผิวอาจจะทำให้ผิวไวต่อแดดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหลังทำการรักษาแนะนำให้หลีกเลี่ยงแสงแดด ทาครีมกันแดด กางร่ม หรือใส่มาส์กคลุมหน้าไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงผิวจากแสงแดด เพราะหากโดนแสงแดดมากจนเกินไป อาจจะทำให้ผิวแดงและบางลงกว่าเดิมได้  

รู้ไว้ก่อนการกรอผิวหน้า

โดยทั่วไปหลังการกรอผิว ผิวหนังบริเวณที่ทำอาจมีรอยแดงเกิดขึ้น แต่ไม่มีแผล เป็นรอยแดงจะหายไปได้เองภายในเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง หรือเต็มที่ไม่เกิน 24 ชั่วโมง โดยทั่วไปควรทำทุก ๆ 1-2 สัปดาห์ ต่อเนื่องกันอย่างน้อย 6-10 ครั้ง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาของผิว ว่ามีปัญหามากน้อยเพียงใด นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการทายา ไม่ออกไปตากแดดจัด ๆ ตอนกลางวัน และควรหลีกเลี่ยงการทาเครื่องสำอางบางประเภท เช่น  AHA หรือกรดวิตามินเอในวันแรก ๆ และควรเลือกรับบริการจากคลินิกที่มีคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ เพราะการเลือกคลินิกที่ไม่มีคุณภาพอาจทำให้เราต้องกังวลกับเรื่องความสะอาดและผลลัพธ์ที่ได้

อ่านรีวิวในเฟสบุ๊ค อ่านรีวิวในกูเกิล