ดูดไขมันหน้าท้อง
ชื่ออื่น ๆ : ลดขนาดหน้าท้อง
ดูดไขมันหน้าท้อง คืออะไร ทำไมต้องดูดไขมันหน้าท้อง?
การดูดไขมันเป็นการผ่าตัดที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นในหลายๆประเทศ โดยเทคโนโลยีของการดูดไขมันได้มีการเปลี่ยนแปลงไปในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ในปี ค.ศ.1985 ได้มีการริเริ่มนำคลื่น อัลตราซาวน์มาช่วยในการดูดไขมัน (Ultrasound assisted lipoplasty or UAL)หลักการของการใช้คลื่นอัลตราซาวน์คือการสลายไขมันด้วยคลื่นความถี่ที่เฉพาะเจาะจงกับไขมันโดยที่จะมีความเสียหายต่อเส้นเลือดและ เส้นประสาทน้อยกว่าการดูดไขมันโดยวิธีดั้งเดิม เมื่อไขมันที่โดนคลื่นเสียงจะเกิดการสั่นและแตกของเซลล์ ไขมันกลายเป็นของเหลวแล้วจึงค่อยดูดไขมันออกมา จะเกิดอะไรขึ้นขณะดูดไขมันหน้าท้อง กำหนดตำแหน่งที่ต้องการดูดไขมันออก ในกรณีที่จะดูดไขมันออกเพียงจุดเดียว และมีไขมันปริมาณไม่มาก อาจใช้ยาชา แต่ถ้าดูดไขมันหลายจุด และปริมาณมากจะต้องทำภายใต้การดมยาสลบ เจาะผิวหนังขนาด 0.5 มิลลิเมตร เพื่อใส่เข็มดูดไขมัน และทำการดูดด้วยเครื่องดูดไขมัน เมื่อเสร็จสิ้นการดูด ไขมัน แพทย์จะเย็บปิดแผลซึ่งเล็กประมาณ 1-2 เข็มเท่านั้นระยะเวลาของการดูดไขมันจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งและปริมาณของไขมัน ผลข้างเคียงจากการดูดไขมันหน้าท้อง
- น้ำเหลือง ( Seroma ) อาจจะมีอาการบวมเป็นหย่อมๆ ซึ่งมีน้ำเหลืองขังอยู่ใต้ผิวหนัง ซึ่งแพทย์จะทำการเจาะออก หรือใส่สายระบายเอาน้ำเหลืองออก 2. ไขมันอุดตันที่ปอด ( Pulmonary Thromboembolism ) 3. แผลติดเชื้อ (Infection ) 4. เลือดจาง (Anemia) 5. เลือดคั้ง ( Hematoma ) 6. ไขมันอุดตันเส้นเลือด ( Fat embolism ) 7. อาจจะมีผิวหนังไหม้เป็นหย่อมๆ จากเลเซอร์ได้
ปัญหาที่พบได้หลังการผ่าตัดระยะยาว
- เป็นก้อนไขมัน ( Fibrosis): แก้ไขโดยนวด, หรือใช้อัลตร้าซาวด์ 2. อาจจะไม่เท่ากัน ( Asymmetries ) ทั้งสองด้าน 3. แผลสมานไม่ดี ( Poor healing )
รู้ไว้ก่อนดูดไขมันหน้าท้อง
การดูดไขมัน ไม่ใช่การลดความอ้วน ดังนั้นการที่จะช่วยให้การดูดไขมันได้ผลเป็นอย่างดี คือการที่คุณมีการดูแล ออกกำลังกาย เพื่อทำให้ผิวมีความกระชับ เป็นผิวที่มีสุขภาพดีไม่เหี่ยวย่น เพื่อเวลาที่คุณได้ทำการดูดไขมันส่วนเกินออก ผิวของคุณก็ยังกระชับและดูดี คุณจึงจะได้รูปร่างที่เพรียวบาง ผิวพรรณกระชับ ได้รูปร่างที่สวยสมส่วนกลับมา