Chartier Clinic (ชาเทียร์ คลินิก)

การดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอโดยเฉพาะในเรื่องของผิวหน้าเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย และต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอถ้าอยากหน้าใสไร้ปัญหามาก่อกวนผิวหน้าเช่น สิวอุดตัน สิวเสี้ยน ริ้วรอยหมองคล้ำ ฝ้า กระซึ่งแต่ละคนก็มีวิธีที่แตกต่างกันออกไป และวิธีที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองโดยใช้ธรรมชาติเข้ามาช่วยดูแล ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีทำหน้าใสที่น่าสนใจไม่น้อย

เคล็ดลับทำให้หน้าใสด้วยสูตรสครับด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ

สครับหรือเม็ดบีดส์เม็ดเล็กๆ ที่มีอยู่ในธรรมชาติ นอกจากจะใช้ขัดผิวได้แล้ว ก็มีสูตรเฉพาะสำหรับทำให้หน้าใสขัดหน้าให้เนียนและกระจ่างได้อีกด้วย และวิธีการทำก็ไม่ยุ่งยากเลย โดยจะขอแนะนำการทำสครับผิวหน้าด้วยกากกาแฟ ซึ่งมีสูตรที่น่าสนใจดังนี้

1. สูตรนมสด+น้ำผึ้ง+กากกาแฟ นำนมสดชนิดจืดแบบกล่องและน้ำผึ้งมาผสมกับกากกาแฟให้เข้ากัน แล้วเอามาทาบนใบหน้ากากกาแฟจะทำหน้าที่เหมือนเม็ดบีดส์ขัดเซลล์ผิวที่ตายไปแล้ว ส่วนนมสดกับน้ำผึ้งจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวหน้าเอาไว้ ใช้นิ้วขัดเบาๆให้ทั่วใบหน้าแล้วทิ้งไว้ 20 นาที ก่อนจะล้างออกให้สะอาด ผิวหน้าจะเนียนนุ่มกว่าเดิมอย่างรู้สึกได้
2. สูตรผงขมิ้น+กากกาแฟ ให้นำส่วนผสมทั้งสองมาผสมกับน้ำเปล่าคนให้เข้ากัน จะได้เป็นเนื้อครีมข้นๆ แล้วเอาไปทาหรือนวดให้ทั่วใบหน้า ขมิ้นจะช่วยกำจัดสิ่งสกปรก และยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตอีกด้วย จากนั้นก็ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด สูตรนี้จะทำให้ผิวหน้าดูเปล่งปลั่ง มีเลือดฝาดแบบขาวใสอมชมพูอย่างเป็นธรรมชาติ
3. สูตรกากกาแฟ+น้ำมันมะกอก+น้ำตาลทรายแดง นำกากกาแฟ 3 ส่วนมาผสมกับน้ำตาลทรายแดง 1 ส่วน และใช้น้ำมันมะกอกเติมลงไป คนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นก็นำมาทาหรือนวดให้ทั่วใบหน้า นวดโดยใช้นิ้วไปเรื่อยๆ เป็นเวลา 10-15 นาที แล้วจึงใช้น้ำล้างออก สูตรนี้จะช่วยให้ผิวหน้าใสเด้งและเนียนนุ่มชุ่มชื้นมากๆ

คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการเลือกใช้กากกาแฟก็คือให้เลือกกากกาแฟคุณภาพดี ซึ่งปัจจุบันนี้สามารถติดต่อขอซื้อได้ตามร้านกาแฟสดชั้นนำทั่วไป

จากวิธีทำหน้าใสโดยใช้วัตถุดิบธรรมชาติที่ได้แนะนำไปข้างต้น  สิ่งสำคัญที่จะทำให้หน้าใสไร้สิวกวนใจนอกจากการดูแลตัวเองด้วยการสครับผิวหน้าเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งแล้ว ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องดูแลควบคู่กันไปเพื่อให้เกิดผลดีกับผิวหน้ามากที่สุด เช่นการเลือกใช้ครีมบำรุงผิวหน้า การรับประทานอาการที่มีประโยชน์ในแต่ละวัน เป็นต้น

ถึงแม้ว่าเรื่องสิวจะเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ถ้าเลือกได้ก็คงไม่มีใครอยากมีสิวมากวนใจ ทำให้ใบหน้าใสๆต้องมีปัญหาหลายอย่างตามมา หรืออาจจะถึงขั้นต้องเสียเงินไปให้หมอช่วยรักษาอีกด้วย ดังนั้น การป้องกันไม่ให้ใบหน้าเกิดปัญหาสิวจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ซึ่งถ้าศึกษาดีๆแล้วก็จะพบว่ามีเคล็ดลับหน้าใสไร้สิวหลายวิธีที่มีประสิทธิภาพ หากทำตามพร้อมกับดูแลตัวเองอย่างจริงจัง

เคล็ดลับหน้าใสไร้สิวด้วยพืชสมุนไพร

สำหรับเคล็ดลับหน้าใสไร้สิวที่จะแนะนำต่อไปนี้ จะเป็นเคล็ดลับการรักษาผิวหน้าที่เคยมีปัญหาสิวให้กลับมาหน้าใสเหมือนเดิมและเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหาสิวกลับมาอีกเลยด้วย เป็นวิธีง่ายๆที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองโดยใช้พืชสมุนไพร ดังนี้

• น้ำปั่นจากใบสะระแหน่ ผักสมุนไพรในครัวที่ทุกคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว วิธีทำก็แค่นำใบสะระแหน่สดไปปั่นในเครื่องปั่นหรือถ้าไม่มีจะใช้วิธีตำและคั้นเอาน้ำก็ได้ จากนั้นก็ใช้น้ำใบสะระแหน่ทาบางๆให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีทุกวันแล้วค่อยล้างออก วิธีนี้นอกจากจะเป็นการรักษาสิวหรือรอยสิวแล้ว ยังป้องกันผดผื่นคันได้ด้วย
• นำกระเทียมสดมาปอกเปลือกฝานเป็นแผ่นบางๆ แล้วค่อยๆลูบไล้บริเวณที่มีปัญหาสิวเบาๆ จะช่วยลดเลือนรอยแผลจากสิวให้จางลงได้ หรือถ้าเป็นสิวอยู่ก็จะทำให้ยุบตัวได้เร็วขึ้นอีกทั้งยังช่วยยับยังแบคทีเรียป้องกันไม่ให้สิวอักเสบ
• มะขามเปียก ที่เห็นอยู่ในครัวบ่อย ก็นำมารักษาสิวได้เช่นกัน ถ้ามีน้ำผึ้งด้วยก็จะดีมากแต่ถ้าไม่มีก็ใช้มะขามเปียกผสมกับน้ำอุ่นเล็กน้อยให้ดูเข้มข้นแล้วนำไปทาบริเวณที่เป็นสิวหรือมีรอยแผล รอยแดงจากสิว ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีค่อยล้างออก จะช่วยทำให้รอยแผลจางหายไปได้อย่างรวดเร็ว
• ว่านหางจระเข้ สมุนไพรสารพัดประโยชน์ที่สามารถนำมาทาเพื่อช่วยลดปัญหาสิวอย่างได้ผลเช่นกัน ใช่แค่เนื้อว่านหางจระเข้อย่างเดียวไม่ต้องผสมอย่างอื่นทาบริเวณที่มีปัญหาสิว นอกจากจะลดเลือนรอยแผลและจุดด่างดำได้แล้ว ก็ยังป้องกันฝ้าได้เช่นกัน

เมื่อทราบถึงเคล็ดลับต่างๆของพืชผักสมุนไพรเหล่านี้แล้ว การดูแลรักษาและป้องกันปัญหาสิว ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพียงแค่ลองเข้าครัวสักครั้ง ก็จะได้ประโยชน์ดีๆจากพืชผักสมุนไพรไทยมากมาย ซึ่งเคล็ดลับต่างๆที่ได้นำเสนอไปก็เป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีสมุนไพร พืชผัก รวมทั้งผลไม้อีกหลายอย่างที่มีคุณประโยชน์ในการช่วยดูแลผิวหน้าให้เนียนใสไร้สิว แต่ที่สำคัญคือต้องทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่องจึงจะเห็นผลตามต้องการ

• ค้นหาแก้ปัญหาผิวด้วยเลเซอร์และอ่านรีวิวแก้ปัญหาผิวด้วยเลเซอร์จากคลินิกต่างๆ
• ค้นหาราคาคอร์สดูแลผิวพรรณและรีวิวการดูแลผิวพรรณต่างๆ

เรื่องของความสวยความงามเป็นสิ่งที่คู่กันกับมนุษย์ ไม่ใช่แต่เพียงผู้หญิงเท่านั้น ปัจจุบันนี้คนทุกเพศทุกวัยที่มีความสนใจและความต้องการที่จะพัฒนารูปร่างหน้าตา เพื่อปรับบุคลิกภาพให้ดีขึ้น การทำศัลยกรรมจึงกลายมาเป็นส่วนสำคัญที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากสามารถแก้ไขและส่งเสริมใบหน้าของเราให้อยู่รูปแบบตามที่ต้องการได้

แน่นอนว่าการปรับปรุงใบหน้าด้วยการผ่าตัดหรือศัลยกรรมนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่เนื่องจากมีผลกระทบต่อร่างกายโดยตรง ดังนั้นผู้ที่ต้องการทำศัลยกรรมจึงมีความจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของศัลยแพทย์และสถาบันที่เปิดบริการรับทำศัลยกรรม คำถามที่ว่า “ทำจมูกหมอไหนดี” จึงกลายเป็นคำถามยอดฮิตที่หลายๆ คนกำลังมองหาคำตอบ

บทความฉบับนี้ เราจะชวนคุณผู้อ่านมาติดตามรีวิวของสถาบันรับทำศัลยกรรมจมูกว่าโรงพยาบาลหรือคลีนิกแห่งใดบ้างที่ได้รับความนิยมและความเชื่อถือ

3คลินิกความงามชื่อดังแห่งปี 2559เสริมจมูกหมอไหนดี?

รีวิวต่อไปนี้จะพาคุณผู้อ่านไปพบกับศัลยแพทย์และสถาบันรับศัลยกรรมจมูกชื่อดัง ที่มีเหล่าพริตตี้และเน็ตไอดอลจำนวนมากใช้บริการตลอดปี 2559 ที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้สนใจนำไปใช้เป็นไกด์และข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจว่าควรจะเสริมจมูกหมอไหนดี

1.นพ.อดิศร ศิริสรรหิรัญ ศัลยแพทย์ประจำวาย บี คลินิก พร้อมด้วยทีมแพทย์ฝีมือดี นพ.กวิน เนตรสุนีย์ และ นพ.จักรินทร สราญฤทธิชัย สถาบันศัลยกรรมเสริมความงามชื่อดังที่กำลังได้รับความนิยมและการพูดถึงเป็นอย่างมาก เนื่องจากคลีนิกแห่งนี้ใช้เทคนิคการเสริมจมูกด้วยการนำกระดูกอ่อนหลังใบหูของคนไข้มาเป็นส่วนเสริม จากข้อมูลกล่าวว่าเทคนิคการศัลยกรรมลักษณะนี้จะทำให้การศัลยกรรมปลอดภัยมากกว่าการใช้วัสดุอื่นๆ นอกจากนี้ทีมแพทย์ทั้ง 3 ยังมีฝีมือประณีต เสกความสวยงามให้กับสาวๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

2. ทำจมูกหมอไหนดี? อีกหนึ่งศัลยแพทย์ที่ได้รับความเชื่อถือจากผู้ทำศัลยกรรมมามากกว่า 10 ปี นพ.ธีระธร อัศวินวินิจกุล แห่งคลีนิกธีระธรฌ์ สถาบันที่มีชื่อเสียงในการปรับโครงหน้าและร้อยไหม ด้วยการใช้วิธี Botox Filter Laser จนเป็นที่กล่าวขวัญกันทั้งวงการนางแบบและพริตตี้ ใครที่กำลังมองหาคุณหมอที่ความเชี่ยวชาญ และให้คำปรึกษาพร้อมวินิจฉับอย่างตรงไปตรงมา แนะนำเป็นอย่างยิ่ง

3.นพ.ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล หรือหมอเส แห่งมาสเตอร์พีซ คลินิก สถาบันเสริมความงามชื่อดังที่มีทีมงานศัลยแพทย์คุณภาพ พร้อมอุปกรณ์ทันสมัย คลินิกแห่งนี้เป็นที่รู้จักและได้รับการบอกต่อกันในวงการพริตตี้และเน็ตไอดอลเช่นกัน แถมยังมีการทำตลาดและโปรโมชั่นอยู่อย่างต่อเนื่อง ใครที่สนใจ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้บนเว็บไซต์ของคลินิก

ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดกับสถาบันเสริมความงามทั้ง 3 แห่งโดยตรงได้ทางโทรศัพท์ หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้บนเว็บไซต์ซึ่งสิ่งสำคัญคือการขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาและความต้องการของตนเอง ผลกระทบ รวมทั้งขอข้อมูลด้านราคาเพิ่มเติมจากทางคลินิกเพื่อรับข้อมูลโดยละเอียดก่อนตัดสินใจ

• ค้นหาเสริมจมูกราคาเท่าไหร่และอ่านรีวิวเสริมจมูกจากคลินิดชื่อดังมากมาย
• ค้นหาราคาศัลยกรรมใบหน้าและเช็ครีวิวศัลยกรรมใบหน้าต่างๆ

สาวๆทุกคนใฝ่ฝันที่จะมีใบหน้าเรียวเล็กได้รูปสวยงาม อันเนื่องมาจากอิทธิพลของความสวยในอุดมคติของผู้หญิงหลายๆชนชาติ ซึ่งต่างให้ความสนใจกับรูปหน้าเรียวเล็ก เพราะเชื่อว่าใบหน้าที่เรียวเล็กได้รูป จะช่วยส่งเสริมให้ดูมีความเป็นผู้หญิง และดูอ่อนหวานมากยิ่งกว่า จึงทำให้สาวๆต่างใฝ่ฝันหมายปองรูปหน้าเรียวเล็ก แต่ด้วยปัจจัยทางด้านกรรมพันธุ์ที่สาวๆหลายคนไม่สามารถมีใบหน้าที่เรียวเล็กได้ตามแบบความงามในอุดมคติ สาวๆจึงหันมาสนใจวิธีที่จะทำให้พวกเธอมีใบหน้าเรียวเล็กได้รูปจากวิธีอื่นๆกัน

ซึ่งหนึ่งในหลายๆวิธีที่จะช่วยเนรมิตรูปหน้าให้ดูสวย ดูเรียวเล็กนั้นคือการฉีดโบท็อกนั่นเองค่ะ และเชื่อว่าสาวๆหลายคนก็รู้จัก และคุ้นเคยกับโบท็อกเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะตามสื่อโฆษณา ป้ายโฆษณาต่างๆ ตามสถานบริการความงาม ต่างล้วนเผยแพร่ข้อมูลความสวยความงาม และข้อดีของโบท็อกเพื่อเชิญชวนให้สาวๆมาใช้บริการซึ่งถือว่าเป็นการตลาดอีกวิธีหนึ่งก็ว่าได้ค่ะ

แต่ก่อนที่สาวๆจะตัดสินใจฉีดโบหน้าเรียวนั้น เราอยากให้สาวๆศึกษาให้ดีก่อน ถึงข้อดีข้อเสียและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อที่เราจะได้ไม่เสียเงินไปอย่างเปล่าประโยชน์ อีกทั้งยังรู้วิธีที่จะรับมือหากเกิดผลข้างเคียงที่อาจจะส่งผลกระทบต่อรูปหน้าของเราได้ค่ะ และหลังจากที่เราศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบหน้าเรียว เพื่อความมั่นใจในการใช้บริการ เราควรจะหารีวิวฉีดโบหน้าเรียวอ่าน เพื่อศึกษาจากประสบการณ์ของผู้ที่เคยผ่านการใช้บริการมาค่ะ ว่าได้ผลจริงหรือไม่ ซึ่งบางรายนั้นอาจจะไม่ได้ผล แต่บางรายนั้นก็ได้ผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีดเลยก็มีค่ะ

รีวิวฉีดโบหน้าเรียวด้วยโบท็อกของอเมริกา

โบท็อกจากอเมริกาขึ้นชื่อว่าเป็นตัวยาที่ดีที่สุด เพราะอเมริกาเป็นเจ้าแรกที่ผลิตโบท็อกขึ้นมา และราคาก็แพงที่สุดเช่นเดียวกัน แต่ด้วยประสิทธิภาพก็ดีตามราคาค่ะ เหล่าสาวๆที่รีวิวผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าโบท็อกจากฝั่งอเมริกานั้น ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติสุดๆ แถมยังอยู่ได้ยาวนานกว่าอีกด้วย

รีวิวฉีดโบหน้าเรียวด้วยโบท็อกของเกาหลี

เป็นโบท็อกที่ราคาไม่แพงมาก และยังคุณภาพดี สาวๆมักจะนิยมใช้โบท็อกจากเกาหลี เพราะอิทธิพลความงามจากประเทศเกาหลีซึ่งแพร่หลายมายังประเทศไทย อีกทั้งราคายังอยู่ในระดับที่เอื้อมถึง แต่ระยะเวลาการคงอยู่ของสารอาจจะอยู่ได้ไม่นานเท่าของอเมริกาค่ะ

หากจะต้องเปรียบเทียบกันถึงประสิทธิภาพแล้ว ต้องยอมรับเลยล่ะค่ะว่าโบท็อกของอเมริกาดูจะมีข้อได้เปรียบมากกว่าของเกาหลี เนื่องจากอเมริกาเป็นชาติแรกที่ทำการผลิตโบท็อก อีกทั้งยังมีการใช้มายาวนานกว่า จึงผ่านขั้นตอนการวิจัยและการพัฒนาที่ทำให้ได้ตัวยาที่ดีกว่า อีกทั้งยังออกฤทธิได้ยานานกว่าของตัวยาประเทศเกาหลี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆอีกด้วย แต่เนื่องจากสาวๆหลายคนมีงบประมาณที่จำกัด การเลือกโบท็อกของประเทศเกาหลีก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ เพราะนอกจากราคาถูกแล้ว คุณภาพก็ยังดีไม่ได้ด้อยไปกว่าโบท็อกของอเมริกาไปมากเท่าไหร่นักเลยล่ะค่ะ

• ค้นหาโบท็อกหน้าเรียวราคาเท่าไหร่และอ่านรีวิวโบท็อกหน้าเรียว
• ค้นหาราคาคอร์สดูแลผิวพรรณและรีวิวการดูแลผิวพรรณต่างๆ

ไม่ใช่เพียงแค่สาวๆ เท่านั้นที่ใฝ่ฝันอยากจะมีใบหน้าอ่อนกว่าวัย ดูเด็กลง และดูสดใสอยู่เสมอ แต่ทุกๆคน ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มๆ หรือสาวๆ ต่างก็ใฝ่ฝัน หมายปองอยากจะมีใบหน้าที่ดูเด็กลง ดูอ่อนกว่าวัยด้วยกันทั้งนั้น เพราะในยุคนี้เป็นยุคที่หน้าตาและรูปร่างมาเป็นอันดับหนึ่ง ที่คนเรามักจะเลือกตัดสินคนอื่นจากรูปลักษณ์ภายนอก อีกทั้งรูปร่างหน้าตายังมอบโอกาสต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน ความน่าเชื่อถือ และการได้รับความรักความเอ็นดูอีกด้วย

และด้วยเหตุผลจากหลายๆประการข้างต้น จึงทำให้ใครหลายๆคนหันมาใส่ใจกับรูปร่างหน้าตากันมากยิ่งขึ้น แต่อุปสรรคหนึ่งที่ไม่สามารถแก้ไขและเยียวยาได้ นั่นก็คืออุปสรรคด้านเวลาและอายุค่ะ เพราะเวลาและอายุนั้นหากล่วงเลยไปแล้ว เราไม่สามารถทำให้มันย้อนคืนกลับมาได้ ทางที่ดีคือควรให้ความสำคัญ เอาใจใส่และดูแลเสียตั้งแต่เนิ่นๆจะดีกว่า

5เคล็ดลับหน้าอ่อนกว่าวัย ที่ทุกคนควรใส่ใจ

และเพราะอายุที่มากขึ้นจะพรากความเยาว์วัย และความสดใสไปจากใบหน้าและผิวพรรณ ดังนั้นเราจึงควรให้ความสำคัญกับการใส่ใจและดูแลผิวและใบหน้าให้ดูอ่อนกว่าวัยอยู่เสมอ เรามาดู 5 เคล็ดลับหน้าอ่อนกว่าวัย ที่ทุกๆ คนสามารถทำตามได้โดยวิธีง่ายๆ กันดีกว่าค่ะ

1. กินอาหารที่มีประโยชน์

ปัจจัยประการแรกคือการใส่ใจกับอาหารที่เรากินอยู่เป็นประจำทุกวัน การกินอาหารที่มีประโยชน์ นอกจากจะให้คุณค่าและสารอาหารที่ร่างกายต้องการแล้ว อาหารยังมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ให้ร่างกายกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงอีกครั้ง และแน่นอนว่าหากใครที่ต้องการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และดูอ่อนกว่าวัยอยู่เสมอ เห็นทีคงจะต้องหันมาใส่ใจกับเรื่องอาหารการกิยดูเสียหน่อยแล้วล่ะค่ะ การเลือกกินเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่ายอย่างเนื้อปลา เนื้อไก่ และการกินผักและผลไม้ก็ช่วยให้เราดูอ่อนกว่าวัยได้มากเลยล่ะค่ะ

2. พักผ่อนให้เพียงพอ

สังเกตไหมคะว่า หากวันไหนที่เราพักผ่อนไม่เพียงพอเนี่ย นอกจากจะไม่รู้สึกสดชื่นแล้ว ยังรู้สึกได้เลยทันทีว่าผิวของเราก็ดูย่ำแย่ลง รอยหมองคล้ำและริ้วรอยย่นบริเวณดวงตาเพิ่มมากขึ้น จึงส่งผลให้เราดูแก่กว่าวัยมากขึ้น หากต้องการดูอ่อนกว่าวัย ควรแบ่งเวลาการพักผ่อนให้ดี เวลาที่เหมาะสมในการพักผ่อนของแต่ละคนนั้นเฉลี่ยควรอยู่ที่วันละ 8 ชั่วโมง และควรจัดห้องนอนให้เหมาะสมกับการพักผ่อนด้วยนะคะ

3. ดื่มน้ำเยอะๆ

น้ำเป็นตัวลำเลียงสารต่างๆเข้าสู่ร่างกาย อีกทั้งยังช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่เซลล์ต่างๆ ทำให้ผิวพรรณแลดูสดใส เปล่งปลั่ง และเต่งตึงอยู่เสมอ ดังนั้น ในแต่ละวันจะต้องดื่มน้ำให้เพียงพอกับปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 6-8 แก้ว และน้ำที่ดื่ม ต้องเป็นน้ำที่สะอาด ปราศจากสิ่งเจือปนนะคะ

4. ทำจิตใจและอารมณ์ให้แจ่มใส

ความเครียดเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าแก่ก่อนวัย หากเราสังเกตคนรอบตัว คนที่มีความเครียดน้อยกว่า มีแนวโน้มว่าจะมีใบหน้าที่อ่อนกว่าวัย ดังนั้น เราควรทำจิตใจและอารมณ์ให้ร่าเริง แจ่มใส ยิ้มเยอะๆ และฝึกมองโลกในแง่ดี จะทำให้เราเป็นคนที่อารมณ์ดี ส่งผลให้เราดูอ่อนกว่าวัยลงด้วยค่ะ

5. อย่าให้ผิวขาดความชุ่มชื้น

ครีมบำรุงผิวเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็ควรใส่ใจกับการบำรุงและดูแลผิวหากคุณต้องการมีใบหน้าที่อ่อนกว่าวัย ที่สำคัญควรเลือกครีมบำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิวและช่วงอายุของแต่ละบุคคลด้วย การเลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่ไม่เหมาะกับผิว นอกจากจะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาผิวอย่างตรงจุดแล้ว อาจจะทำให้ผิวเสียโดยที่เราไม่รู้ตัวอีกด้วยนะคะ

• ค้นหาฉีดโบท็อกราคาเท่าไหร่และอ่านรีวิวฉีดโบท็อก
• ค้นหาราคาคอร์สดูแลผิวพรรณและรีวิวการดูแลผิวพรรณต่างๆ

เทรนด์ใบหน้าที่ดูเรียวเล็กได้รูป เรียกได้ว่าเป็นเทรนด์ความสวยความงามที่ใครๆต่างก็หมายปอง เพราะการมีใบหน้าที่เรียวเล็กนั้นแสดงถึงความอ่อนหวานเป็นผู้หญิง อีกทั้งจะทำผมทรงไหนก็ดูสวยไปซะหมด อีกทั้งผู้หญิงหน้าเรียว ยังดูสวยอ่อนหวานมากกว่าอีกด้วย และเหตุผลเหล่านี้จึงทำให้สาวๆหลายคนใฝ่ฝันอยากจะมีใบหน้าที่เรียวเล็กและสวยได้รูป ซึ่งในยุคสมัยนี้ความฝันของสาวๆเป็นจริงได้ไม่ยากค่ะ

ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ ช่วยให้การมีใบหน้าเรียวเล็กนั้นไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป และที่สำคัญสาวๆไม่ต้องเสี่ยงขึ้นเขียงผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อให้ได้ใบหน้าเรียวเล็กมาครอบครองด้วยล่ะค่ะ เพราะเรามีนวัตกรรมที่เรียกว่าโบท็อกมาเนรมิตใบหน้าเรียวเล็กให้สาวๆได้สวยกันอย่างสมใจ

โบท็อกคืออะไร

โบท็อกคือสารที่เกิดจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่มีฤทธิส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัว โดยไปหยุดการทำงานของระบบประสาทกล้ามเนื้อ โดยการค้นพบสารโบท็อกในวงการความงามนั้นพบได้โดยบังเอิญจากการที่แพทย์ใช้สารโบท็อกเพื่อรักษาคนไข้ที่มีอาการตาเข ตาเหล่ โดยการฉีดเข้าไปที่บริเวณรอบดวงตา หลังจากสังเกตอาการพบว่าคนไข้มีริ้วรอยบริเวณรอบดวงตาที่ตื้นขึ้น แพทย์จึงนำสารชนิดนี้มาใช้ในวงการความสวยความงามจนเป็นที่นิยมมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งสารโบท็อกจะออกฤทธิ์อยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน แล้วจะสลายไปเองตามธรรมชาติ

หน้าสวยได้รูปด้วยการฉีดโบหน้าเรียว

ในยุคสมัยนี้สาวๆสามารถมีใบหน้าที่สวยเรียวเล็กได้รูปได้อย่างไม่ยากเย็น เพราะนอกจากจะไม่ต้องเสี่ยงทำศัลยกรรมผ่าตัดใบหน้าให้สวยเล็กได้รูปแล้ว ยังเสี่ยงเจ็บตัวน้อยกว่าและหากสาวๆไม่พอใจในผลลัพธ์ก็เพียงแค่รอให้สารหมดฤทธิ์ไปเอง อีกทั้งการฉีดโบท็อกยังมีราคาให้เลือกอย่างหลากหลาย และไม่เพียงมากจนเกินไป แต่ที่สำคัญคือควรใส่ใจเลือกสรรสารโบท็อกที่ได้มาตรฐานและได้รับการรองรับจากองค์การอาหารและยา เพื่อความปลอดภัย และการใช้อย่างเห็นผล

ข้อดีของการฉีดโบหน้าเรียว

การฉีดโบท็อกนั้นมีประโยชน์ด้านความสวยความงามในหลายๆประการ ไม่เพียงแต่ช่วยลดขนาดของใบหน้าที่ไม่พึงประสงค์เท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอย ทำให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น และนอกจากประโยชน์ด้านความสวยความงามแล้ว โบท็อกยังมีประโยชน์ด้านสุขภาพอีกด้วย ทั้งการรักษาไมเกรน การระงับกลิ่นกายที่ไม่พึงประสงค์ และแก้ปัญหาหนังตากระตุก เป็นต้นและการฉีดโบท็อกเพื่อจุดประสงค์ด้านความสวยความงามนั้นยังช่วยลดความเครียดในหมู่สาวๆอีกด้วย เพราะจากการศึกษาพบว่าหากสาวๆมีรูปลักษณ์ที่ดูสวยงามมากยิ่งขึ้น จะลดความกดดันและความเครียดลง

ข้อเสียของการฉีดโบหน้าเรียว

แต่การฉีดโบหน้าเรียวนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ข้อดีเพียงอย่างเดียว หากแต่ยังมีข้อเสียที่สาวๆควรรู้ด้วยค่ะ การฉีดโบน้าเรียวนั้นอาจจะทำให้รู้สึกว่าใบน้าดูแข็งๆ ไม่เป็นธรรมชาติ อีกทั้ยังทำให้รู้สึกชาที่บริเวณหน้า จนทำให้ไม่สามารถแสดงออกทางสีหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ บางรายอาจเกิดอาการแพ้สารโบท็อกจนทำให้เกิดอาการระคายเคืองที่ผิวหน้า เกิดผื่นแดง หรือมีอาการวิงเวียน และอาเจียนได้ ดังนั้นสาวๆคนไหนต้องการฉีดโบท็อกอาจจะต้องปรึกษาแพทย์เสียก่อนค่ะ

• ค้นหาฉีดโบหน้าเรียวราคาเท่าไหร่และอ่านรีวิวฉีดโบหน้าเรียว
• ค้นหาราคาคอร์สดูแลผิวพรรณและรีวิวการดูแลผิวพรรณต่างๆ

สิ่งที่สาวๆมักจะกลัวกันมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้นปัญหาเรื่องริ้วรอยที่มาพร้อมกับอายุที่มากขึ้นในทุกๆปี ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยตีนการอบดวงตา และริมฝีปาก หรือความหย่อนคล้อยของผิวหน้า ไม่ตึงกระชับเหมือนแต่ก่อน จึงทำให้สาวๆหลายคนรู้สึกเป็นกังวลเอาได้ เพราะปัญหาเรื่องผิวและริ้วรอย เป็นตัวการสำคัญที่จะทำให้สาวๆ เราสูญเสียความมั่นใจเอาได้ไม่น้อยเลยล่ะค่ะ

แต่สาวๆ ไม่ต้องกังวลไป เพราะเดี๋ยวนี้มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมมากมายที่จะช่วยสรรสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ช่วยบำรุง ดูแล และฟื้นฟูผิวได้ไม่ยาก อีกทั้งยังช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของผิว และช่วยให้ผิวยังคงความอ่อนเยาว์อยู่ได้ โดยผลิตภัณฑ์เหล่านั้นคือครีมลดริ้วรอยนั่นเองค่ะ ซึ่งคำถามต่อไปที่อาจจะเกิดขึ้นในใจของสาวๆก็คือ แล้วครีมลดริ้วรอยยี่ห้อไหนดีล่ะ ที่สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยได้เห็นผลจริง

ครีมลดริ้วรอยยี่ห้อไหนดี ที่ราคาไม่แพง หาซื้อได้ง่ายใน Drugstore

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับครีมลดริ้วรอยกันก่อนดีกว่าค่ะ ครีมลดริ้วรอยหรือ Anti aging นั้นคือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวน้าที่มีส่วนประกอบของสารบำรุงต่างๆที่จะช่วยบำรุงและฟื้นฟูสภาพผิว และช่วยคงความอ่อนเยาว์ให้หับผิวหน้า โดยผิวหน้าที่มีปัญหาริ้วรอยนั้น เกิดจากการขาดความชุ่มชื้น เจ้าครีมลดริ้วรอยต่างนั้นจึงมีส่วนผสมที่ช่วยคืนความชุ่มชื้นแก่ผิว และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เหล่าครีมลดริ้วรอยต่างมีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างหนาและหนัก

1. Olay Regenerist Micro-Sculping Cream

ครีมลดริ้วรอยที่ใส่ส่วนผสมที่สามารถช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวได้เป็นอย่างดี ทำให้ผิวชั้นนอกดูแข็งแรง มอบความชุ่มชื้นและคืนความกระชับให้แก่ผิว อีกทั้งยังมีส่วนผสมของอะมิโนเป็ปไทด์ที่ช่วยทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น และลดเลือนริ้วรอยได้อย่างตรงจุด

2. L’orealRevitaliftIntense Serum

เซรั่มเนื้อเอสเซนส์สุดเข้มข้นที่ช่วยคืนความกระชับให้แก่ผิว อีกทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า และยังสามารถใช้ได้กับบริเวณลำคออีกด้วย มีส่วนผสมที่สกัดมาจากธรรมชาติที่ช่วยให้ผิวเต่งตึง อิ่มเอิบ

3. Pond’s Age Miracle Cell RegenDeep Action Night Cream

ครีมบำรุงผิวหน้าสูตรทากลางคืนที่จะช่วยเนรมิตให้ผิวดูเรียบเนียน ตึงกระชับมากยิ่งขึ้น ด้วยส่วนผสมพิเศษที่ช่วยให้ผิวสามารถสร้างคอลลาเจนได้มากขึ้น อีกทั้งยังช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ให้ผิวดูอิ่มเอิบ สดใสหลังตื่นนอน

4. Smooth-E Gold Cream

ครีมลดริ้วรอยแบรนด์คนไทยที่ขอบอกเลยค่ะว่าคุณภาพดีเยี่ยม มีส่วนผสมหลักคือวิตามินอี สุดยอดวิตามินบำรุงผิวที่ช่วยทำให้ผิวมีความแข็งแรง อีกทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำ อีกทั้งยังช่วยทำให้ผิวนุ่ม เรียบเนียน คืนความกระชับและความยืดหยุ่นให้แก่ผิว

5. Nivea Q10 Plus Night Cream

ครีมลดเลือนริ้วรอยสัญชาติเยอรมันที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยสารสกัดเข้มข้นที่ช่วยคงความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้ตลอดทั้งคืนขณะนอนหลับ อีกทั้งยังมีสาร Q10 เป็นส่วนประกอบ จึงสามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เผยผิวเนียนอ่อนกว่าวัยใน 4 สัปดาห์

จะมีผิวสวยดูอ่อนเยาว์ทั้งทีก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงค่ะ อีกทั้งครีมลดริ้วรอยยังมีประสิทธิภาพและออกฤทธิ์กับสภาพผิวแตกต่างกันออกไป ดังนั้นสาวๆจึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ครีมลดริ้วรอยให้เหมาะกับสภาพผิวหน้าและปัญหาผิว เพื่อผลลัพธ์ผิวสวยอย่างสมบูรณ์แบบ

• ค้นหากรอผิวหน้าราคาเท่าไหร่และอ่านรีวิวกรอผิวหน้าจากสถานเสริมความงามชื่อดัง
• ค้นหาราคาคอร์สดูแลผิวพรรณและรีวิวการดูแลผิวพรรณต่างๆ

ปัญหาของสาวผิวมันคือการที่ผิวผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมาจากผิวหน้า ทำให้ผิวดูมันเยิ้มตลอดทั้งวัน ซึ่งทำให้สาวๆผิวมันทั้งหลายต่างคิดว่าครีมบำรุงนั้นไม่มีความจำเป็น เนื่องจากผิวที่มันอยู่แล้ว หากทาครีมลงบนผิวหน้า จะยิ่งเป็นการเพิ่มความมันให้กับบนผิวหน้าเข้าไปอีก

แต่สาวๆรู้ไหมคะ ว่าความเชื่อนี้ผิดมหันต์!! สาวๆผิวมันก็ต้องการการบำรุงเช่นเดียวกับสาวผิวแห้ง การที่มีผิวมัน ไม่ได้แปลว่าสาวๆจะไม่ต้องการการบำรุงจากครีมบำรุงผิวนะคะ เพราะหนึ่งสาเหตุของการเกิดผิวมันนั้นเกิดขึ้นได้จากการที่ชั้นผิวภายในขาดความชุ่มชื้น จึงทำให้ผิวต้องสร้างความมันขึ้นมาเพื่อที่จะคงความสมดุลของผิวหน้าไว้

แต่แน่นอนว่าสาวๆผิวมันจะต้องพิถีพิถันในการเลือกซื้อครีมทาหน้าที่ดีที่สุด และเข้ากับสภาพผิวของเรากันเสียหน่อย เรามาดูกันค่ะ ว่าสาวๆผิวมันควรมีครีมบำรุงผิวแบบไหนกันบ้าง

ครีมทาหน้าที่ดีที่สุด ที่สาวผิวมันไม่ควรพลาด

1. Yves RocherSebo Vegetal Matifying Gel Cream

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากแบรนด์ฝรั่งเศสที่รักโลกสุดๆ ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีที่ทำร้ายผิว เป็นครีมเนื้อเจลที่ให้ความบางเบา ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะ เหมาะกับสาวๆ ผิวมันแบบสุดๆ อีกทั้งยังช่วยลดความมันบนใบหน้า ให้ผิวคงความสมดุลได้ตลอดทั้งวัน

2. Skinfood Peach Sake Pore Serum

ครีมบำรุงผิวแบรนด์เกาหลีที่ขึ้นชื่อสุดๆจากไลน์สาเกที่ไม่มีสาวๆคนไหนไม่รู้จัก มีคุณสมบัติในการกระชับรูขุมขน พร้อมช่วยลดการผลิตความมันบนผิวหน้า อีกทั้งยังลดปัญหาการเกิดความมันระหว่างวันได้ดีอีกด้วย

3. Neutrogena Hydro Boost Water Gel

อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าปัญหาผิวมันอาจจะเกิดได้จากการที่ผิวหน้ามีความแห้งจนผิวต้องสร้างกระบวนการการผลิตน้ำมันออกมาเพื่อคงความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ดังนั้นหากสาวๆคนไหนรู้ตัวเองว่าเป็นคนผิวมันเพราะผิวขาดน้ำ อาจจะต้องหันมาเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวเสียหน่อย โดยสามารถเลือกครีมเนื้อเจลที่มีความบางเบาอย่าง Neutrogena ตัวนี้ เพราะมีเนื้อที่บางเบาประดุจน้ำ แต่สามารถเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้เป็นอย่างดี แต่ไม่ทิ้งความมันไว้บนผิวหน้า

4. EucerinDermoPurifyer Super Serum

สาวๆผิวมันมักจะหลีกเลี่ยงปัญหาสิวไม่พ้น เพราะทั้ง 2 อย่างนี้มักจะมาควบคู่กัน สำหรับสาวๆผิวมันคนไหนที่มีปัญหาสิว ต้องไม่พลาดครีมบำรุงผิวหน้าจาก Eucerinแบรนด์นี้ เพราะเป็นแบรนด์ที่หลายๆคนให้ความไว้วางใจมานาน อีกทั้งเจ้าตัวนี้ยังมีคุณสมบัติช่วยลดความมัน และลดสาเหตุของการเกิดสิวได้ดีอีกด้วย

5. Nature Republic Aloe Vera 92% Soothing Gel

สำหรับเจลว่านหางจระเข้ ที่กำลังเป็นที่นิยมกันอยู่ในขณะนี้นั้น สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว อีกทั้งไม่เพิ่มความมัน และยังช่วยปลอบประโลมผิวหน้าจากอาการระคายเคืองต่างๆให้ดียิ่งขึ้น และด้วยความที่ทำมาจากธรรมชาติ จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยหายห่วงค่ะ

ทีนี้สาวๆ ผิวมันก็ไม่ต้องห่วงเรื่องผิวหน้ามันเยิ้มจนทอดไข่ได้แล้วนะคะ เพียงแค่เลือกครีมบำรุงผิวหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง รับรองค่ะว่าสาวๆ จะได้ผิวสวยใสมาไว้ในครอบครองได้อย่างไม่ยาก

• ค้นหาแก้ปัญหาผิวด้วยเลเซอร์และอ่านรีวิวแก้ปัญหาผิวด้วยเลเซอร์จากคลินิกต่างๆ
• ค้นหาราคาคอร์สดูแลผิวพรรณและรีวิวการดูแลผิวพรรณต่างๆ

สาวๆ ที่มีช่วงอายุอยู่ที่ประมาณ 25-30 ปีจะเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาผิวและริ้วรอยที่กำลังจะก่อตัวขึ้นมาบนผิวหน้า เพราะในวัยนี้ ความชุ่มชื้นของผิวจะลดน้อยลง อีกทั้งความแข็งแรงของผิวก็ยังลดน้อยลงอีกด้วย ไม่ต้องพูดถึงสาวๆในวัย 30 ปีปลายๆ เลยล่ะค่ะ เพราะในวัยนั้นจะมีปัญหาผิวมากมายมากวนใจ จนสาวๆต้องรีบหาครีมบำรุงผิวมาดูแลและลดเลือนปัญหาผิวต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องริ้วรอย ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำหรับสาวๆ เลยล่ะค่ะ

ส่วนผสมในครีมลดริ้วรอยบนใบหน้า

แต่ในครีมลดริ้วรอยบนใบหน้านั้น มักจะมีสารบำรุงและสารออกฤทธิ์ที่แตกต่างกันออกไป แล้วเราจะเลือกใช้ตัวไหนดีที่จะช่วยให้การลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้าอย่างได้ผล เรามาดูกันค่ะว่าสารตัวไหนบ้างที่มักใส่ลงไปในครีมบำรุงผิว เพื่อช่วยในการลดเลือนริ้วรอย

1. วิตามินอี

วิตามินอีคือราชาแห่งวิตามินด้านความสวยความงาม ในครีมลดริ้วรอยบนใบหน้านั้นมักจะใส่สารวิตามินอีลงไป เพราะมีส่วนช่วยทำให้ผิวแข็งแรง อีกทั้งยังทำให้ผิวนุ่มน่าสัมผัส ลดริ้วรอยตีนกาได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว และไม่ทำให้ผิวแห้งกร้านอีกด้วย

ครีมลดริ้วรอยบนใบหน้าที่มีส่วนผสมของวิตามินอี ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ ก็คงหนีไม่พ้นแบรนด์เวชสำอางอย่าง Smooth E ซึ่งส่วนผสมหลักของแบรนด์นี้จะใช้วิตามินอีเป็นหลัก โดยมีทั้งในผลิตภัณฑ์ปกติ และผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอยโดยเฉพาะ หลังจากที่ใช้จะสังเกตได้ว่าผิวมีความแข็งแรง แน่นกระชับมากยิ่งขึ้น อีกทั้งริ้วรอยยังดูตื้นขึ้นอีกด้วย

Credit: Smooth-E  

       2.วิตามินซี

หากวิตามินอีคือราชาแห่งวิตามินด้านความสวยความงาม วิตามินซีก็ถือได้ว่าเป็นราชินีแห่งความงามเช่นเดียวกัน เพราะวิตามินซีมีส่วนในการช่วยซ่อมแซมผิว อีกทั้งยังช่วยให้ผิวสังเคราะห์คอลลาเจนได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ผิวใส เด้ง ดูอ่อนกว่าวัย

ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของวิตามินซี ความเข้มข้นหากอยู่ที่ประมาณ 5% ขึ้นไป จะให้ผลในด้านผิวใส และลดริ้วรอยแรกเริ่ม สำหรับแบรนด์ Body Shop ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่สาวๆหลายคนให้ความไว้วางใจ ด้วยส่วนผสมวิตามินซี บริสุทธิ์ ช่วยมอบความชุ่มชื้นและความโกลวให้แก่ผิว ทำให้ผิวดูใส และดูอ่อนเยาว์

Credit: Thebodyshop

       3.โคเอ็นไซม์คิวเท็น

เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ และทำให้ผิวมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น และผลการวิจัยยังทำให้เราทราบว่าครีมที่มีส่วนผสมของโคเอ็นไซม์คิวเท็นจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันริ้วรอยได้ดีกว่าครีมที่ไม่มีส่วนผสมของโคเอ็นไซม์คิวเท็น

มีผลิตภัณฑ์อยู่หลายตัวที่มีส่วนผสมของโคเอ็นไซม์คิวเท็น แต่แบรนด์ Nivea มักจะใช้เจ้าสารตัวนี้เป็นตัวหลักในกลุ่มของผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยบนใบหน้า ซึ่งเนื้อผลิตภัณฑ์จะเข้มข้น จึงทำให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอย ให้ผิวดูเรียบเนียน อ่อนเยาว์

Credit: Nivea

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ริ้วรอยเริ่มถามหา สาวๆอย่านิ่งนอนใจปล่อยให้ริ้วรอยลุกลามจนยากจะแก้ไขนะคะ มาเริ่มดูแลผิวตั้งแต่วันนี้ รับรองว่าผิวสวยใสเรียบเนียน จะอยู่คู่กับเราไปอีกนาน

• ค้นหาฉีดโบท็อกราคาเท่าไหร่และอ่านรีวิวฉีดโบท็อก
• ค้นหาราคาคอร์สดูแลผิวพรรณและรีวิวการดูแลผิวพรรณต่างๆ

ดวงตาเป็นอวัยวะสุดโดดเด่นที่ช่วยดึงดูดสายตาจากคนอื่นได้เป็นอันดับแรกๆ การมีดวงตาที่ดูสดใส และอ่อนเยาว์อยู่เสมอจึงถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่มีความโดดเด่น แต่เมื่อเวลาและอายุล่วงเลยไป ทำให้ดวงตาดูร่วงโรยและอ่อนล้า อีกทั้งริ้วรอยรอบดวงตาจะยิ่งทำให้สาวๆดูมีอายุมากยิ่งขึ้น

การลดเลือนริ้วรอยนอกจากจะต้องบำรุงดูแลอย่างดีแล้ว การดูแลสุขภาพตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้ริ้วรอยรอบดวงตามาช้าลง เช่น การพักผ่อนอย่างเพียงพอ การออกกำลังกาย และการทานอาหารที่มีประโยชน์ อีกทั้งการทำอารมณ์ให้ร่าเริงแจ่มใส ไม่เครียด ก็ยังช่วยให้เราดูอ่อนกว่าวัยลงได้ง่ายๆ

ครีมลดริ้วรอยรอบดวงตา 5 แบรนด์ที่สาวๆ ต้องห้ามพลาด

แต่นอกเหนือจากการดูแลสุขภาพทั้งปวงนั้น การใช้ครีมลดริ้วรอยรอบดวงตาดีๆ ก็จะช่วยลดเลือนริ้วรอยและบำรุงผิวหนังรอบดวงตาให้ดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้นเรามาดูกันดีกว่า ว่าครีมลดริ้วรอยรอบดวงตาแบรนด์ไหนบ้างที่สามารถดูแลและลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตาได้อยู่หมัด

1. Yves Rocher Riche Crème Wrinkle Reducing Eye With 30 Precious Oils

ครีมบำรุงผิวรอบดวงตาที่มีส่วนประกอบของน้ำมันถึง 30 ชนิด ที่ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับผิวบริเวณรอบดวงตา อีกทั้งยังมีส่วนประกอบของสารบำรุงอันทรงคุณค่าที่ช่วยฟื้นฟูผิวหนังรอบดวงตาให้กลับมาดูสดใส อ่อนเยาว์

2. SK-II Skin Signature Eye Cream

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบรนด์ดังจากประเทศญี่ปุ่นที่มีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวรอบดวงตาคุณภาพดีไม่กัน โดยในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวรอบดวงตาตัวนี้มีส่วนผสมของพิเทร่า ที่ช่วยลดเลือนความหมองคล้ำบริเวณใต้ดวงตา อีกทั้งยังช่วยลดความไม่สม่ำเสมอของสีผิวรอบดวงตา และลดเลือนริ้วรอยต่างๆได้เป็นอย่างดี เนื้อผลิตภัณฑ์เข้มข้น ช่วยคงความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังรอบดวงตา

3. Clinique All About Eye Serum

เป็นอีกหนึ่งครีมบำรุงผิวรอบดวงตาที่ใช้ง่าย ด้วยรูปแบบผลิตภัณฑ์เป็นแบบหัวลูกกลิ้ง จึงใช้งานได้สะดวก เพียงแค่กลิ้งใบบริเวณรอบดวงตา อีกทั้งเนื้อผลิตภัณฑ์ยังบางเบา แต่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนังบริเวณรอบดวงตาได้ดี หากต้องการเรียกคืนความสดชื่นเพียงแค่แช่ไว้ในตู้เย็นก่อนนำมาหยิบใช้ รับรองว่าจะช่วยทำให้ดวงตาดูสดใสเปล่งประกายเลยล่ะค่ะ

4. Benefit It’s Potent Eye Cream

เนื้อสัมผัสของครีมบำรุงผิวรอบดวงตาที่ช่วยคืนความสดชื่นกลับมาสู่ผิวรอบดวงตา เนื้อครีมเข้มข้น เหมาะกับสาวๆที่มีผิวรอบดวงตาที่แห้ง ช่วยปรับผิวรอบดวงตาให้ดูเรียบเนียนและอิ่มเอิบขึ้นได้ในทันที

5. Estee Lauder Advanced Night Repair Eye Synchronized Complex

อีกหนึ่งแบรนด์ที่ครองใจสาวๆ ด้วยเซรั่มบำรุงผิวคุณภาพดี แต่ครีมบำรุงผิวรอบดวงตาตัวนี้ก็ประสิทธิภาพดีไม่แพ้กัน ด้วยเนื้อเจลที่เข้มข้นแต่ไม่หนาหนักผิว ช่วยลดริ้วรอยรอบดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปรับสีผิวใต้ตาให้สม่ำเสมอ อีกทั้งยังทำให้ดวงตาดูสดใสเหมือนได้รับการพักผ่อนมาอย่างเต็มอิ่ม

การเลือกครีมลดริ้วรอยรอบดวงตา ควรจะใส่ใจและพิถีพิถันกับส่วนผสมภายใน เพราะผิวบริเวณรอบดวงตานั้นมีความบอบบาง และง่ายต่อการระคายเคือง การดูแลผิวรอบดวงตาตั้งแต่วันนี้จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดริ้วรอยร่องลึกได้ง่ายกว่าการมาแก้ไขทีหลังค่ะ

• ค้นหาฉีดฟิลเลอร์ราคาเท่าไหร่และอ่านรีวิวฉีดฟิลเลอร์
• ค้นหาราคาศัลยกรรมใบหน้าและเช็ครีวิวศัลยกรรมใบหน้าต่างๆ