กแม้ว่าการกำจัดไขมันจะเป็นทางลัดในการกระชับสัดส่วนที่ต้องใช้ทุนทรัพย์พอสมควร แต่ก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ให้ความสนใจและเข้ารับบริการไม่ว่าจะเป็นดูดไขมันทั้งตัวหรือดูดเฉพาะจุด ทั้งนี้ คุณควรทำความเข้าใจและศึกษาข้อควรระวังและผลข้างเคียง รวมไปถึงเข้ารับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการทุกครั้ง

 

การดูดไขมันคืออะไร

การดูดไขมันเป็นศัลยกรรมทางการแพทย์ชนิดหนึ่งที่ใช้เทคนิคทางการแพทย์ในการดูดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายที่อาศัยอยู่ใต้ผิวหนัง โดยสามารถเลือกเป็นจุดได้ว่าต้องการทำที่บริเวณไหน ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นบริเวณที่กำจัดไจมันออกได้ยาก โดยบางคนแม้ว่าจะควบคุมอาหารและออกกำลังกายแล้วก็ยังไม่สามารถกำจัดออกไปได้ จึ้งใช้วิธีนี้ในการสลายไขมัน

 

มีทั้งหมดกี่แบบ

การดูดไขมันที่นิยมในปัจจุบันนี้มีหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น

  1. การดูดไขมันแบบ VASER ซึ่งเป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ในการสลายไขมัน ซึ่งเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพที่ดีมากและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยกระบวนจะเริ่มต้นจากการที่แพทย์ฉีดน้ำเกลือที่ผสมกับยาชาไปยังตำแหน่งที่ต้องการจะดูดไขมัน เมื่อยาชาเริ่มทำงาน แพทย์ก็จะกรีดผิวหนังเพื่อทำการสอดเครื่องมือเข้าไป โดยเครื่องมือนั้นจะมีลักษณะเป็นหัวเล็กๆขนาด 3 มิลลิเมตรที่จะปล่อยคืนอัลตร้าซาวด์เข้าไปผ่านหัว Vaser นั้น โดยตัวคลื่นจะทำให้ไขมันอ่อนนิ่มและเหลวจนสลายออกมาปนกับน้ำเกลือที่แพทย์ฉีดเข้าไปก่อนหน้านี้ และก็จะทำการดูดออกมา โดยการทำประเภทนี้เหมาะกับคนที่มีน้ำหนักตัวมากและลดไขมันยาก ข้อดีอีกอย่างคือทำให้ผิวเรียบเนียน และลดการเกิดรอยฟกช้ำ พร้อมทั้งแผลยังหายได้เร็วอีกด้วย
  2. การดูดไขมันแบบ Bodytite วิธีการนี้จะใช้คลื่นวิทยุในการส่งเข้าไปสลายไขมัน และทำให้โมเลกุลเล็กลง ทำให้ดูดไขมันออกมาได้ง่าย ข้อดีของการทำด้วยวิธีนี้คือแผลจะเล็กมาก และยังสามารถกระตุ้นคอลลาเจนขณะทำด้วย ทำให้หลังทำเสร็จผิวหนังกระชับเรียบเนียนอีกด้วย
  3. การดูดไขมันแบบ water jet เหมาะกับคนที่ต้องการนำไขมันส่วนนี้ไปเติมส่วนอื่นของร่างกาย โดยวิธีการสลายไขมันนี้จะใช้พลังงานน้ำในการแยกไขมันออกมาจากเซลล์ ทำให้ไขมันนี้มีความสมบูรณ์มากพอที่จะนำไปใช้ต่อได้ โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะนำไขมันนี้ไปเติม หน้าอก สะโพก หรือใบหน้า

 

เตรียมตัวก่อนการดูดไขมัน

ระยะเวลาในการเข้ารับการรักษานั้นจะอยู่ที่ประมาณ 2 ชั่วโมง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่า ดูดกี่บริเวณอีกด้วย และอาจจะไม่จำเป็นต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลได้ ก่อนเข้ารับการรักษาอาจจะต้องงดยาบางชนิดซึ่งอาจจะมีผลกับการแข็งตัวของเลือด

 

หลายๆคนมักสงสัยว่าการดูดไขมันนี่ได้ผลลัพธ์ที่ถาวรหรือไม่

การดูดอาจสามารถกำจัดได้ถึง 60% ซึ่งไขมันนั้นอาจจะเกิดมาใหม่ได้แต่ไม่ถึง 100% เหมือนเดิม ทำให้เราจะกลับมาอ้วนได้ยากขึ้นเนื่องจากจะช่วยควบคุมเซลล์ แต่การควบคุมอาหารและเปลี่ยนพฤติกรรมการกินหลังการทำนั้นก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะหากกินอาหารไม่ดี เซลล์อาจจะเติบโตกลับมาทำให้มีไขมันสะสมเหมือนก่อนทำอีกด้วย

 

ดูดไขมันราคาเท่าไหร่?

ดูดไขมันราคาเท่าไหร่ จัดเป็นหนึ่งในคำถามยอดฮิต อย่างที่เราเกริ่นกันไปแล้วว่า ราคาดูดไขมันแตกต่างกันไปตามประเภทและเทคโนโลยีที่ใช้ เริ่มต้นที่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน สามารถเรียงลำดับราคาตามเทคโนโลยีได้ ดังนี้

  1. การสลายไขมันด้วยความเย็น เป็นการสลายเฉพาะจุดเท่านั้น
  2. การดูดไขมันด้วยคลื่นอัลตราซาวน์ เป็นการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงมาใช้เพื่อสลายไขมันในส่วนที่หนาแน่น
  3. การดูดไขมันด้วยเลเซอร์ เป็นการยิงเลเซอร์จนทำให้ไขมันกลายเป็นน้ำมัน จากนั้นจึงดูดออกผ่านทางสายที่ยิงเลเซอร์
  4. การดูดไขมันแบบฉีดสารละลายระหว่างยาชา และยา Epinephrine ซึ่งทำให้คุณบาดเจ็บและมีเลือดออกน้อยที่สุด และยังทำให้ผิวหนังเรียบเนียนมากที่สุดด้วย

นอกจากเทคโนโลยีที่ใช้แล้ว บริเวณที่ต้องการดูดออกก็มีผลต่อราคาด้วย ถ้าดูดเฉพาะจุดย่อมมีราคาย่อมกว่าดูดไขมันทั้งตัว ทั้งนี้ คุณสามารถเข้าพบแพทย์ตามสถานพยาบาลหรือคลินิกเพื่อขอคำแนะนำ สอบถามว่าดูดไขมันราคาเท่าไหร่ รวมไปถึงค้นหาโปรโมชันช่วยลดหย่อนค่าบริการได้

 

วิธีดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน

ถึงแม้ว่าหลังทำนั้นไขมันจะหายไปไหนพริบตาแล้ว แต่หากไม่ควบคุมอาหารและออกกำลังกายนั้น ไขมันก็อาจจะถามหาอีกก็ได้ เพราะฉะนั้นการใส่ใจในเรื่องการกินยังสำคัญมากที่สุด หลังการทำนั้นแพทย์อาจแนะนำให้ใส่ชุดกระชับสัดส่วนเพื่อปรับสรีระของร่างกาย โดยจะขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่ามีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน โดยอาจจะใส่เป็นเวลานาน 1-2 เดือนแล้วแต่ความจำเป็น และอาจจะต้องมีการรับประทานยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้ออีกด้วย

 

ผลค้างเขียงที่อาจเกิดจากการดูดไขมัน

การดูดไขมันเป็นการกำจัดไขมันออกอย่างรวดเร็วและจะทำให้เกิดอาการฟอก บวมช้ำได้ โดยวิธีการที่จะช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้คือการใส่ชุดกระชับหรือสเตย์ เพื่อช่วยให้ร่ายกายไม่เกิดกระทบแผลทำให้ลดอาการบวมได้

บางคนอาจจะเกิดผิวหนังไม่เรียบเนียน โดยมีลักษณะเป็นคลื่นซึ่งเกิดการที่เข้าไปสลายไขมันในผิวชั้นที่ไม่ลึกมากพอ หรือบางคนอาจจะมีผิวหนังแข็งเนื่องจากเนื้อเยื่อแข็งตัว ซึ่งอาจจะใช้การนวดเข้าเพื่อช่วยรักษาให้ผิวกลับมาเป็นปกติได้

ในบางรายอาจจะมีอาการชาซึ่งจะหายไปได้หลังจาก 6-8 สัปดาห์ และอีกอาการที่พบเจอคือการเกิดของเหลวสะสมใต้ผิวหนังทำให้เกิดเป็นถุงใต้ผิวหนังได้อีกด้วย

สำหรับคนที่มีโรคประจำตัวไม่ว่าจะเป็น เบาหวาน โรคหัวใจ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือระบบไหลเวียนผิดปกติ ไม่ควรรับการดูดไขมัน เพราะอาจมีแนวโน้มเกิดอาการภาวะแทรกซ้อนได้มาก และควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากมีโรคเหล่านี้เพื่อที่จะต้องทำการตรวจสอบสภาวะร่างกายหากจำเป็นต้องทำ แต่แพทย์มักจะไม่อนุญาติให้เข้าทำ

 

สิ่งที่หลายคนเข้าใจผิดกับการดูดไขมัน

  1. การลดไขมันไม่ใช่การลดนำ้หนัก เนื่องจากว่าเป็นการสลายไขมันเฉพาะส่วนในร่างกายออกเท่านั้น สำหรับคนที่มองหาการลดน้ำหนักแบบได้ผลเร็ว ไม่มีค่ะ ต้องใช้เวลาควบคุมอาหารและออกกำลังกายพร้อมกับความตั้งใจเท่านั้นจึงจะทำให้บรรลุเป้าหมายที่เราตั้งใจไว้ค่ะ
  2. การดูดไขมัน ไม่ได้ทำให้หน้าท้องของเราแบนราบสวยงามได้ทันที การดูดไขมันหน้าท้องบางครั้งหลังทำอาจทำให้เกิดผิวหนังเหี่ยวย่นก็เป็นได้ ซึ่งหลายมักจะสับสนกับการผ่าตัดกระชับหน้าท้อง ที่เหมาะกับคนที่ไขมันน้อยแต่มีอาการ ท้องลายและเหี่ยวย่นมากกว่า

 

ดูดไขมันที่ไหนดี?

เราอยู่ในยุคสมัยที่เดินไปทางไหนก็เจอคลินิกเปิดให้บริการเพื่อความสวยความงามตามท้องถนน แต่การจะเลือกไปสลายไขมันที่ไหนสักที่นั้น เราจำเป็นต้องศึกษาหาข้อมูลของสถานพยาบาลหรือคลินิกรวมถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำสถานที่นั้นๆ ให้มั่นใจเสียก่อน ซึ่งตัวช่วยในการคัดกรองคงหนีไม่พ้น รีวิวดูดไขมัน ซึ่งคุณสามารถค้นหาคำจำกัดความอย่าง ดูดไขมันรีวิวดีๆ มีที่ไหนบ้าง ตามอินเทอร์เน็ต เพื่อดูผลลัพธ์และการบริการของสถานพยาบาลจากผู้ที่เคยไปใช้บริการมาแล้ว เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

เราสามารถกำจัดเซลล์ไขมันส่วนเกินเพื่อสร้างความมั่นใจในสรีระทรวดทรงด้วยการสลายไขมันได้แล้ววันนี้ แต่อย่าลืมว่าเทคโนโลยีและวิทยาการสมัยใหม่ย่อยมาพร้อมกับผลข้างเคียงเสมอ การศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดจึงถือเป็นการทำการบ้านที่สำคัญมากก่อนเข้ารับบริการ ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด