การทำเลเซอร์ (Laser)
ชื่ออื่นๆ: excimer laser, Photo-refractive keratectomy (PRK)
การทำเลเซอร์คืออะไร ทำไมต้องทำเลเซอร์?
PRK เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ป่วยที่ไม่เหมาะสมกับวิธีเลสิก เนื่องจากมีัปัญหาทางกายภาพของดวงตา เช่น กระจกตาบาง กระจกตาอ่อนแอถลอกง่าย อาการตาแห้งกว่าปกติ ความโค้งกระจกตาไม่เหมาะสมสำหรับการแยกชั้นกระจกตา ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคต้อหิน ซึ่งบางรายได้รับการพิจารณาจากแพทย์เฉพาะทางโรคต้อหินแล้วว่าสามารถรับการรักษาสายตาผิดปกติด้วยเลเซอร์ได้หรือ มีความจำเป็นทางวิชาชีพ
ขั้นตอนการทำเลเซอร์
- แพทย์จะทำการลอกผิวกระจกตาชั้นออกออกมาก่อน
- จากนั้นจะใช้เครื่องเอ็กไซเมอร์เลเซอร์ เช่นเดียวกับการทำเลสิกคือปรับแต่งความโค้งของกระจกตาจนได้ความโค้งที่ต้องการ
- ใส่คอนแทคเลนส์ปิดแผลไว้เพื่อลดอาการระคายเคืองหลังทำ เพื่อช่วยให้แผลปิดและหายเร็วขึ้น โดยทั่วไปแผลจะปิดสนิทในเวลาประมาณ 4-7 วันขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เมื่อแผลปิดแล้วแพทย์จะเป็นผู้ถอดคอนแทคเลนส์ออกให้
ผลข้างเคียงจากการทำเลเซอร์
- ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดตา สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการรับประทานยาบรรเทาปวด Paracetamol 500 mg. 1-2 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง หรือยาแก้ปวด Celebrex 1-2 เม็ด
- แม้ว่าแพทย์จะใส่คอนแทคเลนส์เพื่อลดอาการระคายเคืองตา แต่ผู้ป่วยก็ยังมีอาการระคายเคืองตา แสบตา น้ำตาไหลมาก ลืมตาไม่ขึ้น เปลือกตาบวม สู้แสงไม่ได้ ซึ่งอาจมีอาการไม่เท่ากันในแต่ละบุคคล อาการดังกล่าวจะหายไปเองใน 3-5 วัน
รู้ไว้ก่อนทำเลเซอร์
- หลังผ่าตัดผู้ป่วยสามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้เท่าที่สามารถ เพราะการมองเห็นยังไม่ชัดในช่วง 1-5 วันแรก ควรพักให้มาก
- ผู้ป่วยต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไปและเป็นผู้ที่แพทย์วินิจฉัยให้ทำ PRK
- หลังผ่าตัดผู้ป่วยต้องหยอดน้ำตาเทียมและยาปฏิชีวนะ ห้ามไม่ให้น้ำเข้าตา จนกว่าแผลจะปิดและแพทย์ถอดคอนแทคเลนส์แล้ว
- หากมีอาการไม่สบายตาหรือระคายเคืองตา ผู้ป่วยสามารถหยอดน้ำตาเทียมได้บ่อยเท่าที่ต้องการ
- หลังผ่าตัดหากพบว่ามีขี้ตา ให้หยอดตาด้วยน้ำตาเทียม 3-4 หยดเพื่อให้ตาแฉะ จากนั้นใช้ไม้พันสำลีแห้ง เขี่ยขี้ตาบริเวณหัวตาออก ห้ามใช้น้ำเกลือหรือสิ่งใดๆ เช็ดตาหรือเปลือกตาเด็ดขาด
- ผู้ป่วยต้องใส่ฝาครอบตาก่อนนอนทุกคืนจนกว่าแผลจะปิดและแพทย์ถอนคอนแทคเลนส์ รวมถึงการใส่ฝาครอบตาก่อนนอนกลางวันด้วย เพื่อป้องกันการขยี้ตาโดยไม่รู้ตัว