Nitipon Clinic (นิติพล คลินิก)

ปัญหาอย่างหนึ่งของสาวไทยนั่นคือปัญหาปีกจมูกกว้าง ซึ่งมันก็จะทำให้จมูกดูใหญ่กว่าความเป็นจริง ดังนั้น หากจะแก้ไขปัญหานี้ การศัลยกรรมตัดปีกจมูกจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด แต่ก่อนที่จะไปทำศัลยกรรมนั้น การได้อ่านรีวิวตัดปีกจมูก ก่อนก็จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีกว่าว่าคลินิกหรือโรงพยาบาลไหนที่เหมาะสมกับคุณ เพราะแพทย์แต่ละที่ก็มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการศัลยกรรมแตกต่างกันไป ในบทความนี้ เราได้รวมรวมรีวิวตัดปีกจมูกดีๆ ซึ่งก็มีดังต่อไปนี้

5รีวิวตัดปีกจมูกและสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการตัดปีกจมูก

1. แม้ว่าจะการตัดปีกจมูกจะฟังดูเป็นเรื่องใหญ่ แต่จริงๆ แล้วใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น และสามารถกลับไปพักที่บ้านได้เลย โดยแพทย์จะตัดเนื้อก้อนใหญ่ที่ปีกจมูกออกไปและใช้ไหมเย็บ หรือบางครั้งอาจจะใช้ไหมเย็บปีกจมูกเพื่อทำให้มันดูเล็กลง ทั้งนี้ไม่ว่าจะวิธีใดแพทย์จะฉีดยาชาก่อน คนไข้จึงไม่รู้สึกเจ็บ
2. โดยปกติแล้วแพทย์มักจะดูภาพรวมของจมูกของคุณ บางครั้งจึงจะทำแค่ตัดปีกจมูกเพียงอย่างเดียวไม่ได้ อาจจะต้องทำดั้งเสริมด้วย เพื่อให้จมูกของคุณดูสวยไม่หลอกตาและมีขนาดที่เหมาะสมกับใบหน้า บางคนที่เสริมจมูกเพียงอย่างเดียวแต่ปีกจมูกใหญ่นั้นก็จะดูไม่สวยเหมือนจมูกหัก ดังนั้น จึงควรที่จะต้องตัดปีกจมูกด้วยเพื่อให้จมูกออกมาเป็นทรงที่สุด
3. หลังจากที่ได้ทำการตัดปีกจมูกไปแล้ว แพทย์จะแนะนำให้คุณระวังอย่าให้แผลโดนน้ำ และต้องประคบเย็นไว้ก่อนเพื่อไม่ให้จมูกบวม นอกจากนี้จะต้องทำความสะอาดแผลทุกวันเพื่อลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ และที่สำคัญที่สุดคือจะต้องงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดด้วย
4. คลินิกที่มีชื่อเสียงเรื่องการตัดปีกจมูกได้แก่ โรงพยาบาลเอเชีย โรงพยาบาลเลอลักษณ์ โรงพยาบาลศัลยกรรมเกาหลีบาโนบากิ ซึ่งแต่ละที่ก็มีความแตกต่างกันไป โรงพยาบาลเอเชียจะเน้นจมูกที่มีความเป็นธรรมชาติ โรงพยาบาลเลอลักษณ์จะเน้นจมูกที่โด่ง สวยคมเหมือนจมูกสาวฝรั่ง ส่วนโรงพยาบาลบาโนบากิจะเด่นเรื่องการตัดปีกจมูกให้รับกับจมูกทรงหยดน้ำสไตล์เกาหลี
5. ในส่วนของราคานั้นค่อนข้างแตกต่างไปตามคลินิกต่างๆ ส่วนใหญ่แล้วจะเริ่มที่ 10,000 บาทไปจนถึงหลักแสน ซึ่งการศัลยกรรมเป็นการลงทุน หากคุณเจอคลินิกที่ถูกใจแล้ว คุณก็ไม่ควรที่จะประหยัดเงินและเลือกในที่ที่มีราคาถูกจนไม่สมเหตุสมผล เพราะอาจจะเป็นคลินิกที่ไม่ปลอดภัยและอาจจะทำให้ปีกจมูกและจมูกของคุณดูไม่สวยกว่าของเดิมเสียอีก

• ค้นหาเสริมจมูกราคาเท่าไหร่และอ่านรีวิวเสริมจมูกจากคลินิดชื่อดังมากมาย
• ค้นหาราคาศัลยกรรมใบหน้าและเช็ครีวิวศัลยกรรมใบหน้าต่างๆ

การผ่าตัดศัลยกรรมจมูกและการดูแลตัวเองหลังทำจมูกเป็นสิ่งสำคัญมากและควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพราะหากไม่ทำตามหรือละเลยเรื่องการดูแลอาจส่งให้เกิดผลเสียร้ายแรงตามมาอย่างคาดไม่ถึง เช่น เสริมจมูกด้วยซิลิโคนแล้วทะลุออกมาด้านนอก เป็นแผล จมูกบิดเบี้ยวเสียรูป ต้องทำการแก้ไขและรักษาซ้ำอีก ซึ่งทุกคนที่ทำศัลยกรรมก็คงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นกับตัวเองอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะเจ็บตัวอีกครั้งยังต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาเพิ่มอีกด้วย

คำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังทำจมูก

• ต้องประคบเย็นทันทีหลังจากผ่าตัดเป็นเวลารวม 48 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องด้วยการใช้เจลแพ็คหรือผ้าขนหนูที่เปียกหมาดๆและห้ามให้แผลโดนน้ำอย่างน้อย 7 วัน
• ถ้ามีเลือดหรือน้ำเหลืองซึมออกมาจากแผลผ่าตัด ให้ใช้คอตตอนบัตที่สะอาดเช็ดเบาๆ แล้วใช้เบตาดีนทาแผลเพื่อฆ่าเชื้อโรค
• ให้นอนยกหัวสูงหลังการผ่าตัดช่วงแรกๆ เพื่อไม่ให้มีอาการเลือดคั่งจนรูปทรงจมูกบิดเบี้ยว และควรทราบไว้ด้วยว่าอาการบวมจนตาปิดช่วง 3-4 วันแรกเป็นอาการปกติไม่ต้องวิตกกังวลเกินไป
• ในช่วง 3-4 วันแรก ควรจะเลือกรับประทานอาหารอ่อนๆเพื่อจะได้ไม่ต้องขยับปากกับจมูกมากนัก งดอาหารเผ็ดหรือรสจัดที่รับประทานแล้วทำให้มีน้ำมูกไหล
• พาตัวเองไปอยู่ในสถานที่แห้งและเย็น เพื่อหลีกเลี่ยงฝุ่นที่เป็นสาเหตุให้มีอาการแพ้อากาศ จะได้ไม่ต้องไอ จาม หรือมีน้ำมูกในระหว่างช่วงเวลานี้
• รับประทานยาเฉพาะที่แพทย์สั่งเท่านั้น ถ้ามีอาการผิดปกติใดๆที่น่าสงสัยหรือแพ้ยาตัวใดก็ตามให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที
• ในวันที่ 4 หลังจากรับการผ่าตัด สามารถแกะเฝือกที่จมูกด้วยตัวเองได้ ด้วยวิธีใช้น้ำอุ่นลูบเบาๆให้กาวละลายและลื่นหลุดออกมาซึ่งใช้เวลานานพอสมควร
• เริ่มใช้ยารักษาแผลเป็นได้ หลังรับการผ่าตัด 10-14 วัน
• ต้องมาตรวจตามวันที่แพทย์นัดไว้ ห้ามลืมเด็ดขาด เพราะหากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นจะได้แก้ไขได้ทันเวลา
• ทำใจให้สบาย อย่าวิตกกังวลเรื่องรูปทรงของจมูกมากเกินไป เพราะในช่วง 1 เดือนแรกหลังการผ่าตัดแผลจะยังบวมอยู่ ต้องใจเย็นและรอจนกว่าแผลจะหายดี

อย่างที่ระบุไว้ในตอนต้นว่าการดูแลตัวเองหลังทำจมูกและปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัดหลังผ่าตัดทำจมูก มีความสำคัญมากและจะส่งผลในระยะยาวด้วย หากละเลยไม่ทำตามคำสั่งหรือดูแลไม่ดี ผลเสียที่จะเกิดขึ้นอาจทำให้เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลาหรือถ้าร้ายแรงมากก็ถึงขั้นเสียโฉมต้องเจ็บตัวซ้ำอีกแน่นอน ดังนั้นถ้าอยากสวยอย่างไร้ปัญหากวนใจก็ต้องให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองอย่างดีที่สุด

• ค้นหาทำจมูกราคาเท่าไหร่และอ่านรีวิวทำจมูกจากคลินิดชื่อดังมากมาย
• ค้นหาราคาศัลยกรรมใบหน้าและเช็ครีวิวศัลยกรรมใบหน้าต่างๆ

แนวทางหาคลินิก เสริมดั้งที่ไหน ดีที่สุด

“อยากจะเสริมจมูก ทำดั้ง  แต่ไม่รู้จะทำที่ไหนดี ราคาเท่าไหร่  ทรงจมูกทรงไหนจะเหมาะกับใบหน้า  ควรเริ่มหาข้อมูลในการเสริมจมูกยังไง” คำถามเหล่านี้คงเป็นคำถามสุดฮอตเลยทีเดียวสำหรับการเสริมจมูก  ซึ่งไม่ว่าจะเข้าไปค้นหาตามแหล่งเว็บไซต์ดังๆ  เช่น พันทิป หรือ ดั้งโด่ง โดดเด่น   ก็คงต้องเจอคำถามเหล่านี้อย่างแน่นอน   เพราะหลายๆคนนั้นอยากจะเสริมจมูก  แต่ก็กลัวอะไรๆหลายอย่างกลัวทำจมูกมาแล้วไม่สวยบ้าง  กลัวทำแล้วจมูกเบี้ยว เอียง หรือเสริมจมูกแล้วทะลุบ้าง   เลยทำให้เป็นกระแสในการตามหาคลินิกศัลยกรรมจมูก  หรือถามหาหมอที่เสริมจมูกสวยรูปทรงดีๆ กันมากมายแต่ก่อนที่จะหาว่า เสริมดั้งที่ไหน ดีที่สุด เรามาดูเกี่ยวกับแนวทางการมองหาคลินิกเสริมจมูกกันก่อน ดังนี้

อันดับแรกคือ  ให้ดูเพื่อนรอบๆตัวเราว่า  ใครเสริมจมูก ทำจมูกมาแล้วบ้าง  ไปเก็บข้อมูลจากเขามาก่อน อย่างน้อยข้อมูลเบื้องต้นที่ได้ก็คือ  เสริมจมูกที่ไหน ราคาเท่าไหร่ เสริมจมูกราคาถูกราคาแพงแตกต่างกันอย่างไร สถานบันความงามหรือคลินิกเสริมจมูกเป็นอย่างไร  ขั้นตอนการเสริมจมูก  การนัดพบแพทย์ การดูแล  ให้หาข้อมูลต่างๆเหล่านี้ก่อน

หลังจากได้ข้อมูลเกี่ยวกับการเสริมจมูกจากเพื่อนแล้ว   แนะนำให้ลองมาทบทวนก่อนว่าชอบทรงจมูกแบบไหน ซึ่งในปัจจุบันมีหลายแบบและมีตัวอย่างให้ดูค่อนข้างมาก  ไม่ว่าจะเป็นทรงเกาหลี  จมูกปลายหยดน้ำ ทรงตั๊กแตน แต่ในจุดนี้จะมีข้อที่เป็นข้อจำกัดของตัวเราเองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย อาจจะเปิดนิตยสารดูทรงจมูกสวยๆของดาราไปก่อน ดูว่าเราชอบในลักษณะจมูกทรงไหนบ้าง

ต่อไปให้คิดพิจารณาว่า   จะตัดสินใจเสริมจมูกทรงอะไรดี   ทำดั้งที่ไหนดี ซึ่งควรจะต้องเข้าไปดูรีวิวจมูก หรือค้นหาข้อมูลในแต่ละคลินิก ในปัจจุบันมีทั้งเฟซบุ๊ค มีทั้งเว็บไซต์ ไลน์ ยูทูป ทั้งหลายแหล่งข้อมูลให้ลองเข้าไปดูข้อมูลคลินิกที่สนใจเหล่านั้นได้ก่อนตัดสินใจ

ขั้นตอนสุดท้ายคือเดินเข้าไปที่คลินิกศัลยกรรม  เพื่อขอคำปรึกษาจากคุณหมอว่าเราเหมาะสมที่จะทำจมูกทรงตามที่คิดไว้หรือไม่   อาจดูรีวิวเสริมจมูกของคลินิกเพิ่มขึ้นอีก เพราะบางคลินิกไม่ได้โชว์รูป Before/ After ลงในเฟซบุ๊คหรือเว็บไซต์ หากมีโอกาสเข้าไปที่คลินิก สามารถที่จะขอดูซิลิโคนเสริมจมูกของจริงได้ด้วย ซึ่งโดยปกติแล้วคลินิกต่างๆ จะมีตัวอย่างวางไว้ให้ดู

แนะนำคลินิก เสริมดั้งที่ไหน ดีที่สุด

สาวๆ ที่กำลังคิดจะทำศัลยกรรม อย่างการเสริมจมูก นอกจากการหาข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลตัวเองระหว่างการเสริมจมูก เลือกทรงที่สวย สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือข้อมูลคลินิกเสริมจมูกนี่แหละ ปัญหาโลกแตกที่สาวๆ คิดไม่ตก ก็คือจะเลือกทำที่ไหนดี วันนี้เราก็มีตัวเลือกคลินิกชื่อดัง งานดี มาอัพดั้งให้พุ่งกันเลย

1. AP Clinic By หมอทิพย์

ที่ตั้ง : ถนน อิสรภาพ (ตึกอำนวยทิพย์)วัดกัลยา, ธนบุรี, กรุงเทพ

เบอร์โทร : 02-041-7644, 097-174-5936, 086-406-3569

2. Kongju Clinic

ที่ตั้ง : 213/1-2 ถนนรัชดาภิเษก (ชั้น 4 อาคาร เอส.เค.ดี มั่นคง กรุ๊ป) สามเสนนอก, ห้วยขวาง, กรุงเทพ

เบอร์โทร : 088-969-6499, 084-690-9669, 02-6937143

3. คลินิกแพทย์สมชาย ห้วยขวาง

ที่ตั้ง : 2000/21-7 ซอยห้วยขวาง ถ.ประชาสงเคราะห์ (ซอยประชาสงเคราะห์ 36 หรือโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินMRT สถานีห้วยขวางทางออก 3) ดินแดง, กรุงเทพ

เบอร์โทร : 02-276-6663, 081-944-9595

4. หมอศรัณย์ (คลินิกศัลยกรรมนายแพทย์ศรัณย์)

ที่ตั้ง : 1287-9 ปากซอยอินทามระ 43 ถนนสุทธิสาร-รัชดา เขตดินแดง กทม. 10400 (รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลงป้ายสถานีสุทธิสาร แล้วขึ้นประตูด้านสถานีตำรวจสุทธิสาร มาทางแยกสุทธิสาร เข้าซอยประมาณ 300 เมตร)สามเสนนอก, ห้วยขวาง, กรุงเทพ

เบอร์โทร : 02-693-9391, 02-693-9392

5. Meko Clinic จตุจักร

ที่ตั้ง : 1060 ถ.พหลโยธิน (ตรงข้ามสวนสาธารณะจตุจักร ติดธนาคารทหารไทยสำนักงานใหญ่) จอมพล, จตุจักร, กรุงเทพ

เบอร์โทร : 02-272-0022, 081-272-0022

6. Masterpiece clinic

ที่ตั้ง: 199/6-201 ถ.พระราม1 (จากรถไฟฟ้า BTS สถานีสยาม ทางออกหมายเลข 2 แล้วตรงไปทางสี่แยกปทุมวัน หรือBTSสนามกีฬาแห่งชาติ คลินิกอยู่ตรงข้ามมาบุญครอง MBK )ปทุมวัน , กรุงเทพ

เบอร์โทร : 087-919-1111, 085-999-9714

7. ณรวี คลินิก

ที่ตั้ง : ซอยอุดมสุข 30 ถ.สุขุมวิท 103 บางนา, กรุงเทพ

เบอร์โทร : 091-442-2888 / 081-755-1200

8. The Art Clinic

ที่ตั้ง : ถ.พหลโยธิน (Major Cineplex รัชโยธิน ชั้น 3) ลาดยาว, กรุงเทพ

เบอร์โทร : 083-878-4222, 02-939-4998

9. BB Clinic บีบี คลินิก สุขุมวิท

ที่ตั้ง : สุขุมวิท11 คลองเตยเหนือ, วัฒนา, กรุงเทพ

เบอร์โทร : 081-768-1882

10. V-design Clinic ชั้นG TowerB โรงพยาบาลวิภาวดี

ที่ตั้ง : โรงพยาบาลวิภาวดี 51/45 ถ.งามวงศ์วาน เขตจตุจักร, กรุงเทพมหานคร (โรงพยาบาลวิภาวดี ชั้นG TowerB)

เบอร์โทร : 092-9202929

• ค้นหาเสริมดั้งราคาเท่าไหร่และอ่านรีวิวเสริมดั้งจากคลินิดชื่อดังมากมาย
• ค้นหาราคาศัลยกรรมใบหน้าและเช็ครีวิวศัลยกรรมใบหน้าต่างๆ

โบท็อก นวัตกรรมความงามที่สาวๆในยุคนี้ให้ความสนใจ ด้วยคุณสมบัติที่ทำให้ใบหน้าเรียวกระชับได้รูป หมดปัญหาหน้าบาน กรามใหญ่ ดูไม่ละมุน และเนรมิตใบหน้าเรียวสวยตามสมัยนิยมได้ไม่ยากด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมอันทันสมัย จึงทำให้เกิดเป็นค่านิยมไปฉีดโบท็อกหน้าเรียวในหมู่สาวๆที่ฝันอยากมีใบหน้าเรียวสวยได้รูปตามอุดมคติ

และเพราะความสวยความงามในอุดมคตินั้นคือการที่มีใบหน้าเรียวเล็ก และได้รูป จึงทำให้สาวๆหลายคนให้ความสนใจกับการฉีดโบท็อกหน้าเรียวกันมากยิ่งขึ้น จึงทำให้คลินิกความงามหลายต่อหลายแห่งเปิดให้บริการฉีดโบท็อกหน้าเรียว จนทำให้สาวๆเลือกใช้บริการกันไม่ถูกเลยค่ะ เพราะนอกจากคุณภาพการบริการ ฝีมือการให้บริการแล้ว ยังมีโปรโมชั่นอีกมากมายที่ทางคลินิกความงามยื่นเสนอให้กับสาวๆ จนทำให้สาวๆเกิดความลังเล ไม่แน่ใจว่าจะไปฉีดโบหน้าเรียวที่ไหนดี ซึ่งในวันนี้เรามีคำตอบมาให้สาวๆ เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกใช้บริการ

ฉีดโบหน้าเรียวที่ไหนดี ที่ไหนทำแล้วหน้าเรียว สวยได้ดั่งใจ

คลินิกความงามเฉพาะในกรุงเทพมหานครนั้นก็ไม่ใช่มีให้เลือกเพียงแค่ไม่กี่คลินิก แต่มีเป็นหลายสิบหลายร้อยคลินิกที่ทำให้สาวๆปวดหัวเพราะเลือกใช้บริการไม่ถูกว่าจะไปฉีดโบหน้าเรียวที่ไหนดี วันนี้ทางเราจึงคัดสรรคลินิกดีๆ ที่ผู้ใช้บริการจริงได้นำมาบอกเล่าสู่กันฟังผ่านทางเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และเว็บบอร์ดต่างๆค่ะ ทีนี้สาวๆก็จะได้มีข้อมูลนำไปใช้ตัดสินใจกันนะคะ

1. ของขวัญคลินิก (Khongkwan Clinic)

คลินิกศัลยกรรมความงามที่เน้นเรื่องผิวพรรณและศัลยกรรมตกแต่ง โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ทำการรักษาและให้คำปรึกษากับสาวๆ อีกทั้งคลินิกยังอยู่ในมาตรฐานระดับ World Class ที่จะทำให้มั่นใจในการให้บริการ ในด้านการให้บริการฉีดโบท็อกยังเป็นที่ไว้วางใจจากสาวๆผู้แบ่งปันเรื่องราวและประสบการณ์ในเว็บไซต์ต่างๆด้วยว่าที่นี่สามารถเนรมิตใบหน้าเรียวเล็กได้จริงไม่มีผิดหวัง

2. ยศสินีคลินิก (Yotsinee Clinic)

คลินิกความงามที่โด่งดังในเว็บไซต์จากการบอกเล่าแบบปากต่อปากของสาวๆผู้เคยผ่านการใช้บริการฉีดโบท็อกหน้าเรียว โดยยศสินีคลินิกเป็นคลินิกที่เน้นให้บริการด้านผิวพรรณ อีกทั้งยังมีบริการปรับรูปหน้า ช่วงนี้กำลังมีโปรโมชั่นแรงๆอย่างฉีดโบท็อกลดราคาอยู่ที่ 50% จากราคาเดิม อีกทั้งคุณหมอยศสินียังเรียนจบด้านความงามจากประเทศสหรัฐอมเริกา อีกทั้งยังมีรางวัลการันตีความสามารถในการฉีดโบท็อกและฟิลเลอร์ด้วย แบบนี้สาวๆต้องรีบเก็บคลินิกนี้ไว้ในดวงใจแล้วล่ะค่ะ

3. มิราเคิลคลินิก (Miracle Clinic)

มิราเคิลคลินิก เรื่องความสวยเราช่วยคุณได้… สโลแกนประจำคลินิกความงามแห่งนี้ที่ช่างยั่วยวนให้เราเข้าไปใช้บริการเสียจริงค่ะ สำหรับมิราเคิลคลินิกนั้นเปิดให้บริการด้านความงามมากว่า 25 ปี จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งคลินิกความงามที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้ โดยที่คลินิกแห่งนี้มีบริการให้เลือกหลากหลาย อีกทั้งบริการโบท็อกของที่นี่ยังช่วยให้สาวๆมีใบหน้าสวยเรียวได้รูปในราคาที่ไม่แพงเกินไปอีกด้วยค่ะ

4. เอเม่คลินิก (Aime Clinic)

ฉีดโบท็อกหน้าเรียวในราคาที่เอื้อมถึง โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและศัลยกรรมความงาม ที่ให้สาวๆสามารถไว้วางใจในการให้บริการได้ด้วยมาตรฐานที่ทำให้ลูกค้าหลายๆรายพึงพอใจและกลับมาใช้บริการซ้ำ ที่นี่นอกจากจะมีบริการฉีดโบท็อกลดกรามแล้ว ยังมีบริการฉีดโบท็อกลดริ้วรอยในราคาที่ไม่แพงอีกด้วยค่ะ

เป็นอย่างไรบ้างคะ กับคลินิกความงามที่สาวๆผู้ผ่านประสบการณ์จริงจากการใช้บริการได้แนะนำผ่านทางเว็บไซต์ ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคำแนะนำจากสาวๆจะช่วยให้ผู้ที่สนใจตัดสินใจเลือกใช้บริการฉีดโบท็อกหน้าเรียวได้ง่ายขึ้นนะคะ

เสริมดั้ง ราคาเท่าไหร่? วิธีทำเป็นอย่างไร?

การเสริมจมูกมีหลายรูปแบบด้วยกัน อย่างที่เห็นกันบ่อยๆ ก็จะเป็นการเสริมจมูกด้วยการใช้ซิลิโคนหรือกระดูกอ่อนบริเวณหลังหู ส่วนวิธีการเสริมจมูกนั้น จริงๆแล้ว มี 3 วิธีหลักๆ คือแบบโอเพ่น แบบโคลส และแบบ นอน เซอร์จิคัล ไรโนพลาสตี้ ดังนี้

1. การเสริมจมูกแบบโคลสเทคนิคัล เป็นการเสริมจมูกโดยใช้วิธีการผ่าตัดภายในจมูก โดยแพทย์ศัลยกรรมจะเลือกรูจมูก1 ข้างหรือ 2 ข้างเพื่อทำการผ่าตัด แล้วแต่ความถนัดของแพทย์ศัลยกรรม เมื่อผ่าตัดแล้ว แพทย์จะขยายโพรงจมูกให้กว้างขึ้นเพื่อใส่ซิลิโคนหรือกระดูกอ่อนเข้าไปเป็นการเสริมดั้ง
2. การเสริมจมูกแบบโอเพ่นเทคนิคัล การผ่าตัดจมูกแบบนี้เป็นการเสริมจมูกแบบที่ผ่าตัดทั้งภายในและภายนอกจมูก ทำให้เห็นแผลเป็นแน่นอน แพทย์ศัลยกรรมใช้วิธีนี้ในการแต่งและแก้จมูกของผู้รับการศัลยกรรม
3. การเสริมจมูกแบบโคเรีย เทคนิคัล การเสริมจมูกแบบนี้ถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะว่าจะมีกระบวนการเริ่มด้วยการโอเพ่นทำทิป พลาสตี้ ต่อมาใส่ซิลิโคนเข้าไป แล้วทำการเย็บจมูก หรืออีกแบบที่เรียกว่า ลาเทรัล ออสทีโอโทมี่ ซึ่งจะทุบกระดูกบริเวณจมูก เรียกว่าเป็นมาตรฐานของการศัลยกรรมจากประเทศเกาหลีก็ว่าได้this one, writer copy from somewhere and difficult to edit it. There is something wrong in this sentences(but already fix)

สำหรับในประเทศไทยส่วนใหญ่จะเป็นการผ่าตัดเสริมจมูกแบบโคลสเทคนิคัลมากกว่า เพราะว่าหลายคนคงไม่อยากให้เห็นแผลที่จมูก แต่อย่างไรก็ตามการผ่าตัดทุกแบบต้องดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและสถาบันที่มีมาตรฐานเท่านั้น

เสริมดั้ง ราคา คร่าวๆ ของซิลิโคนแบบต่างๆ

หลายๆ คนสงสัยว่า ซิลิโคนแบบไหน ที่เหมาะกับใบหน้า แบบไหนดีกว่า แต่ละแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร และราคาประมาณเท่าไหร่ ซึ่งบางที่มีให้เลือกหลายแบบตั้งแต่ ซิลิโคน ไทย, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, เกาหลี, อเมริกา และบราซิล เลยทีเดียว ซึ่งจะมาดูกันต่อไปว่า ซิลิโคนแต่ละแบบเป็นอย่างไรกันบ้าง

Silicone ไทย        :  ราคา 5,000-6,000 บาท (สีเทา แข็ง)

Silicone ญี่ปุ่น     :  ราคา 8,000 – 15,000 บาท (สีเหลือง ความนิ่มปานกลาง)

Silicone เกาหลี   : ราคา 20,000 – 30,000 บาท (สีเหลือง หรือสีน้ำตาลแดง ความนิ่มปานกลาง)

Silicone อเมริกา : ราคา 15000 – 25000 บาท (สีขาว ความนิ่มปานกลาง)

Silicone บราซิล  : ราคา 40000 บาท ขึ้นไป (สีขาว ลักษณะ Duo silicone ปลายจะมีความนิ่มมาก)

ราคาเสริมดั้ง อ้างอิงจาก โรงพยาบาลยันฮี

เสริมจมูก ซิลิโคนมาตรฐานทั่วไป                                  15,000 บาท

เสริมจมูก ซิลิโคนUSA แบบพิเศษ                                 20,000 บาท

แก้ไขจมูก ซิลิโคนมาตรฐานทั่วไป                                 25,000 บาท

แก้ไขจมูก ซิลิโคนUSA แบบพิเศษ                                30,000 บาท

ขูดจมูกที่ฉีด ซิลิโคน                                                           35,000 บาท

Copy without proofreading that there is something wrong! (already fix)

ถอดจมูก                                                                                8,000 บาท

แก้ไขปลายจมูกบางใส ด้วยกระดูกใบหูหรือไขมัน     20,000 บาท

ตัดปีกจมูก                                                                             15,000 บาท

ตัดกระดูกสันจมูก                                                               15,000 บาท

แก้ไขจมูกบี้ จากภาวะปากแหว่ง                                      30,000 บาท

แก้ไขจมูกคดเอียง จากอุบัติเหตุ                                       50,000 บาท

ลดขนาดจมูกที่ใหญ่                                                            60,000 บาท

Copy without proofreading that there is something wrong! (already fix)

สำหรับสถาบันความงาม โรงพยาบาล หรือคลินิกอื่นๆ การเสริมดั้ง ราคานั้นอาจแตกต่างกันได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและการให้บริการของสถานที่นั้น แนะนำให้ควรสอบถามและขอคำปรึกษาจากสถานที่ที่สนใจเลือกใช้บริการโดยตรง

การผ่าตัดศัลยกรรมจมูกและการดูแลตัวเองหลังทำจมูกเป็นสิ่งสำคัญมากและควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพราะหากไม่ทำตามหรือละเลยเรื่องการดูแลอาจส่งให้เกิดผลเสียร้ายแรงตามมาอย่างคาดไม่ถึง เช่น เสริมจมูกด้วยซิลิโคนแล้วทะลุออกมาด้านนอก เป็นแผล จมูกบิดเบี้ยวเสียรูป ต้องทำการแก้ไขและรักษาซ้ำอีก ซึ่งทุกคนที่ทำศัลยกรรมก็คงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นกับตัวเองอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะเจ็บตัวอีกครั้งยังต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาเพิ่มอีกด้วย

คำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังทำจมูก

• ต้องประคบเย็นทันทีหลังจากผ่าตัดเป็นเวลารวม 48 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องด้วยการใช้เจลแพ็คหรือผ้าขนหนูที่เปียกหมาดๆและห้ามให้แผลโดนน้ำอย่างน้อย 7 วัน
• ถ้ามีเลือดหรือน้ำเหลืองซึมออกมาจากแผลผ่าตัด ให้ใช้คอตตอนบัตที่สะอาดเช็ดเบาๆ แล้วใช้เบตาดีนทาแผลเพื่อฆ่าเชื้อโรค
• ให้นอนยกหัวสูงหลังการผ่าตัดช่วงแรกๆ เพื่อไม่ให้มีอาการเลือดคั่งจนรูปทรงจมูกบิดเบี้ยว และควรทราบไว้ด้วยว่าอาการบวมจนตาปิดช่วง 3-4 วันแรกเป็นอาการปกติไม่ต้องวิตกกังวลเกินไป
• ในช่วง 3-4 วันแรก ควรจะเลือกรับประทานอาหารอ่อนๆเพื่อจะได้ไม่ต้องขยับปากกับจมูกมากนัก งดอาหารเผ็ดหรือรสจัดที่รับประทานแล้วทำให้มีน้ำมูกไหล
• พาตัวเองไปอยู่ในสถานที่แห้งและเย็น เพื่อหลีกเลี่ยงฝุ่นที่เป็นสาเหตุให้มีอาการแพ้อากาศ จะได้ไม่ต้องไอ จาม หรือมีน้ำมูกในระหว่างช่วงเวลานี้
• รับประทานยาเฉพาะที่แพทย์สั่งเท่านั้น ถ้ามีอาการผิดปกติใดๆที่น่าสงสัยหรือแพ้ยาตัวใดก็ตามให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที
• ในวันที่ 4 หลังจากรับการผ่าตัด สามารถแกะเฝือกที่จมูกด้วยตัวเองได้ ด้วยวิธีใช้น้ำอุ่นลูบเบาๆให้กาวละลายและลื่นหลุดออกมาซึ่งใช้เวลานานพอสมควร
• เริ่มใช้ยารักษาแผลเป็นได้ หลังรับการผ่าตัด 10-14 วัน
• ต้องมาตรวจตามวันที่แพทย์นัดไว้ ห้ามลืมเด็ดขาด เพราะหากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นจะได้แก้ไขได้ทันเวลา
• ทำใจให้สบาย อย่าวิตกกังวลเรื่องรูปทรงของจมูกมากเกินไป เพราะในช่วง 1 เดือนแรกหลังการผ่าตัดแผลจะยังบวมอยู่ ต้องใจเย็นและรอจนกว่าแผลจะหายดี

(ภาพจาก https://pixabay.com)

อย่างที่ระบุไว้ในตอนต้นว่าการดูแลตัวเองหลังทำจมูกและปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัดหลังผ่าตัดทำจมูก มีความสำคัญมากและจะส่งผลในระยะยาวด้วย หากละเลยไม่ทำตามคำสั่งหรือดูแลไม่ดี ผลเสียที่จะเกิดขึ้นอาจทำให้เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลาหรือถ้าร้ายแรงมากก็ถึงขั้นเสียโฉมต้องเจ็บตัวซ้ำอีกแน่นอน ดังนั้นถ้าอยากสวยอย่างไร้ปัญหากวนใจก็ต้องให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองอย่างดีที่สุด

มาทำความรู้จักกับเลอลักษณ์ก่อนเสริมคางเลอลักษณ์

                ‘เลอลักษณ์’เริ่มต้นจากธุรกิจคลินิกศัลยกรรมเล็กๆ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2545   ภายใต้ชื่อ ‘คลินิกสวยงาม’ซึ่งชื่อเสียงโด่งดังทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง ดำเนินงานโดย คุณพิศพรรณ ศรีไชยยันต์ และนายแพทย์กิตติศักดิ์ วิชาชัย ผู้เป็นศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้าน Plastic Surgery ด้วยการให้บริการศัลยกรรมตกแต่งอยู่ภายใต้แนวคิด ‘ไม่รวยก็สวยได้ด้วยมือศัลย์’  เพราะในสมัยก่อนนั้น คำว่าศัลยกรรมยังดูเป็นเรื่องไกลตัวเนื่องด้วยราคาค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ทำให้มีแต่เหล่าดารา นักแสดง นักแสดง หรือคนที่มีฐานะดีเท่านั้นที่สามารถทำได้

ดังนั้น ‘คลินิกสวยงาม’ จึงสามารถตอบโจทย์ ผู้ที่มีความต้องการทำศัลยกรรมในราคาที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ด้วยคุณภาพ สวยงาม และปลอดภัย ในระดับเดียวกับคลินิกศัลยกรรมแนวหน้าจึงทำให้ ‘คลินิกสวยงาม’ได้กลายเป็นที่ไว้วางใจจากผู้เข้ารับบริการจำนวนมาก เกิดเป็นกระแสบอกต่อ และจำนวนผู้ที่เข้ารับบริการได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากทั่วประเทศเลยทีเดียว

เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการ ทางผู้บริหารคลินิกจึงได้ ก่อตั้ง โรงพยาบาลเฉพาะทาง ศัลยกรรมตกแต่ง ในชื่อ “โรงพยาบาลเลอลักษณ์”เพิ่มคุณภาพและมาตรฐานสู่การเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งชั้นแนวหน้าของประเทศไทย ทั้งยังเพิ่มแผนกผิวพรรณ เลเซอร์ และทันตกรรม ตอบโจทย์ความงามอย่างครบวงจร เป็นเวลากว่า 14 ปีแล้ว ที่ทางโรงพยาบาลเลอลักษณ์ได้พัฒนาความปลอดภัย คุณภาพ และการบริการให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ ‘โรงพยาบาลเลอลักษณ์’นับได้ว่าเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะทาง ระดับแนวหน้าของประเทศอย่างแท้จริง

เสริมคาง เลอลักษณ์ ดียังไง?

1. แพทย์ทุกท่านเป็นศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง และเป็นสมาชิกของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยแห่งประเทศไทย (ThSAPS) ซึ่งแพทย์เฉพาะทางต้องเรียนหลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิต 6 ปี ต่อด้วยศัลยศาสตร์ทั่วไป 3 ปี และศึกษาต่อด้านศัลยศาสตร์ตกแต่งอีก 3 ปี รวม12 ปี และแพทย์ทุกท่านมีประสบการณ์ด้านการผ่าตัดศัลยกรรม 10 ปีขึ้นไป จึงมั่นใจได้ว่า แพทย์ของเราเชี่ยวชาญและน่าเชื่อถือ
2. โรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีเครื่องมือแพทย์ครบครัน ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อด้วยระบบกรองอากาศ สามารถควบคุมปริมาณฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กและเชื้อโรคต่างๆ ได้ 99% และมีระบบ Oxygen Pipeline หรือออกซิเจนช่วยชีวิตในกรณีฉุกเฉินสำหรับผู้ป่วย รวมทั้งมีทีมแพทย์และพยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดการรับบริการ
3. แพทย์มือเบาเกิดการอักเสบและบวมช้ำน้อย เพียงแค่3-4 วันอาการบวมจะทุเลาลง ทำให้คางสวยได้รูป ไม่เป็นถ้วย หน้าดูสมส่วนตลอดชีวิต
4. รับประกันงานศัลยกรรมภายในระยะเวลาถึง6 เดือนหลังจากทำการผ่าตัด

เสริมคาง ทำไม?

                เสริมคาง (Chin Augmentation) คือ การศัลยกรรมที่ปรับรูปทรงหรือขนาดของคางเพื่อให้ดูดีขึ้น อาจทำได้โดยการเสริมวัสดุหรือปรับรูปทรงของกระดูกบริเวณคางให้เข้าที่มากขึ้น

ซึ่งคางที่สวยได้รูปนั้นช่วยให้ใบหน้าดูสวยโดดเด่นได้อย่างไร ทำไมสาวๆ ถึงนิยมทำกัน ทั้งทำอย่างไรให้สวยและปลอดภัย ดูข้อมูลต่อไปนี้กัน

เนื่องจากใบหน้าของคนเราแบ่งได้ 3 ส่วน คือ ส่วนบน (หน้าผาก, คิ้ว) ส่วนกลาง (ตา, จมูก, โหนกแก้ม) และส่วนล่าง (ปาก, คาง, กราม) ซึ่งสัดส่วนของใบหน้าที่ดูสวยงามนั้น ให้มองด้านจากข้างของใบหน้า โดยลองวาดเส้นไล่จากหน้าผากลงตามแนวสันจมูก ริมฝีปากและคาง หากได้เส้นที่ระดับปีกจมูกกับคางตรงกันถือได้ว่า มีสัดส่วนของคางที่สมส่วนสวยงาม

จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า คางเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญของใบหน้า คางที่เล็ก ใหญ่ หรือยื่น ต่างส่งผลให้เส้นโค้งไม่ได้รูป ดังนั้นการเสริมคางจึงสามารถปรับเส้นโค้งให้เหมาะสมลงตัว เพิ่มความสวยงามบนใบหน้า แต่ถ้าคิดจะศัลยกรรมเสริมคาง ต้องให้ศัลยแพทย์เฉพาะทางตรวจดูสภาพของใบหน้าและกรามทั้งหมดก่อนว่า มีความผิดปกติส่วนอื่นร่วมหรือไม่ เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาให้ถูกจุดหรือรักษาร่วมในคราวเดียวกันได้ ซึ่งหากต้องการ เสริมคาง เลอลักษณ์ พร้อมให้บริการด้วยมาตรฐานที่ปลอดภัย มั่นใจได้

ราคา เสริมคาง เลอลักษณ์

• เสริมคาง

ซิลิโคนธรรมดา อเมริกา                                    13,900 บาท

ซิลิโคนเกรดเอ อเมริกา                                      19,900 บาท

ซิลิโคนพิเศษ อเมริกา                                        29,900 บาท

ซิลิโคนพิเศษ เกาหลี                                          29,900 บาท

ซิลิโคนพิเศษ เกาหลี                                          39,900 บาท

• เสริมคาง เคยฉีดสารเหลว

เคยฉีดสารมาและเสริมทับ                                10,000 บาท
ขูดสารเหลวออกก่อน                                         39,000 บาท

• ถอดคาง

เปิดแผลในปาก                                                    12,900 บาท

เปิดแผลนอกปาก                                 8,900 บาท

ผมร่วง  ผมบางมาจากหลายปัจจัย อย่างไรก็ตาม ประมาณ 90% ของผมร่วงซึ่งทำให้หัวล้านนั้นมีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่เพราะการรักษาให้หายขาดนั้นทำได้ยาก นั่นเป็นเพราะว่าสาเหตุที่ทำให้ผมร่วงเหล่านี้เกิดจากฮอร์โมนในร่างกายที่ชื่อว่า DHT ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ไม่มีทางกำจัดออกจากร่างกายได้อย่างถาวร วิธีการรักษาอาการผมร่วง ผมบาง หัวล้านโดยทั่วไปที่ปรากฏอยู่ก็จะมีตั้งแต่การรับประทานยา ทายา ใช้เทคโนโลยีเลเซอร์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ และการผ่าตัด แต่เนื่องจากในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้นทำให้วิธีการปลูกผมถาวรที่มีอยู่เดิมนั้นได้รับการพัฒนาจนกลายเป็นเทคนิควิธีการปลูกผมใหม่ ๆ ซึ่งไม่จำกัดว่าจะต้องผ่าตัดอีกต่อไป อย่างไรก็ตามบทความนี้ก็จะนำเสนอวิธีการผ่าตัดทั้งหมดที่ยังคงใช้ในปัจจุบัน

• การปลูกผมที่ต้องผ่าตัด FUT-Follicular Unit Transplantationโดยศัลยแพทย์จะทำการตัดหนังศีรษะออกมาแถบหนึ่งแล้วเย็บหนังศีรษะเข้าหากัน แล้วนำแถบผมที่ได้มาแบ่งเซลล์ผมออกเป็นกราฟ ๆ (กอ) โดยใช้กล้องจุลทรรศน์ ก่อนที่จะนำไปปลูกในบริเวณที่รากผมตายแล้ว วิธีนี้ถือเป็นการปลูกผมราคาถูกที่สุดโดยประมาณ ทั้งนี้ราคาค่าบริการของการปลูกผมขึ้นอยู่กับความหนาแน่นที่ต้องการและจำนวนกราฟ อย่างไรก็ดีการปลูกผมโดยวิธีนี้มีข้อจำกัดอยู่ 3 ข้อ ได้แก่ จะต้องมีการปลูกขั้นต่ำ 500 กราฟ และไม่เกิน 5000 กราฟ และปลูกได้มากที่สุด 3000 กราฟต่อครั้ง
• การปลูกผมด้วยวิธีย้ายรากผม FUE-Follicular Unit Extractionเป็นการเจาะเอารากผมโดยใช้หัวเจาะขนาดเล็กที่มีความคมแล้วย้ายไปปลูกในบริเวณที่รากผมตายหรือบริเวณที่ผมร่วงเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามศัลยแพทย์ต้องใช้เทคนิคที่ดีและเป็นเทคนิคที่มีความละเอียดและระมัดระวังอย่างยิ่ง นั่นเป็นเพราะหากแพทย์ไม่ชำนาญจะทำให้หัวเจาะรากผมขาดได้ วิธีนี้มีราคาสูงกว่าการปลูกผมแบบ FUT คือ 200 บาทต่อกราฟ ซึ่งจะมีเส้นผม 1-3 เส้นต่อกราฟ และเช่นเดียวกัน การปลูกผมโดยวิธีนี้ก็มีข้อจำกัดเช่นกัน ได้แก่ จะต้องมีการปลูกผมขั้นต่ำ 500 กราฟ และทำได้ไม่เกิน 1000 กราฟต่อครั้ง
• การปลูกผมโดยใช้หุ่นยนต์เป็นการปลูกผมแบบ FUE เพียงแต่มีหุ่นยนต์ช่วยเหลือแพทย์ในการเจาะรูของเส้นผมด้านหลังและนำออกจากศีรษะเท่านั้น แต่ทั้งนี้แพทย์ยังคงต้องเป็นผู้นำเซลล์ผมมาปลูกยังบริเวณที่ศีรษะล้าน การปลูกผมโดยใช้วิธีนี้มีราคาสูงกว่าการปลูกผมแบบ FUE ปกติคือ 250-300 บาทต่อกราฟซึ่งแต่ละกราฟประกอบด้วยเส้นผม 1-3 เส้นและจะต้องปลูกขั้นต่ำ 1000 กราฟและทำได้ไม่เกิน 4000 กราฟ
• การปลูกผมด้วยเทคโนโลยีปลูกผมด้วย STEM CELLซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ในการรักษาผมร่วง และศีรษะล้านซึ่งการปลูกผมด้วยวิธีนี้จะช่วยกระตุ้นให้เซลล์รากผมที่ไม่งอกหรือตายไปแล้วสามารถกลับมางอกใหม่อีกครั้งได้ แต่การรักษาผมร่วงและศีรษะล้านด้วยวิธีนี้มีราคาค่าบริการที่ค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาด้วยวิธีอื่นคือ ประมาณ 6000 บาทต่อครั้ง ซึ่งต้องทำเป็นคอร์ส คอร์สละประมาณ 5-10 ครั้งขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของแต่ละคน

อย่างไรก็ตาม ราคาที่กล่าวถึงข้างต้นเป็นราคาที่เกิดจากการประเมินขั้นต่ำ ปริมาณกราฟที่ใช้จริงขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาและวิจารณญานของแพทย์ แต่ส่วนใหญ่แล้วการปลูกผมในครั้งหนึ่งต้องปลูกไม่ต่ำกว่า 1000 กราฟแม้ในบริเวณที่ต้องการปลูกไม่กว้างมาก

ในสังคมปัจจุบัน ปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่สร้างความวิตกกังวลให้กับทั้งหนุ่มและสาววัยทำงานในบางครั้งรวมถึงวัยเรียน ดังนั้นผลิตภัณฑ์เพื่อการปลูกผมจึงถูกพัฒนาขึ้นมาในหลายรูปแบบ เช่น สมุนไพรปลูกผม สารเคมี รวมไปถึงการผ่าตัดเพื่อปลูกผม เป็นต้น อย่างไรก็ตามในครั้งนี้จะพูดถึงยาปลูกผมที่ได้ผลดีที่สุดจากการรีวิวของผู้ใช้ทั่วไป

บางท่านแนะนำให้ใช้แชมพูที่มีสรรพคุณในการลดผมขาดหลุดร่วง เช่น Bergamot Shampoo หรือ Hair Tonic หรือ Shampoo Pregaine หรือแชมพูสมุนไพรของ Olaboเป็นต้น ในขณะที่บางท่านแนะนำผลิตภัณฑ์ที่สกัดได้จากธรรมชาติ เช่น การรับประทานวิตามินดี และไบโอติน การปลูกผมด้วยน้ำมันมะกอก การปลูกผมด้วยน้ำมันมะพร้าว การรับประทาน Zinc ร่วมกับการใช้ยา Retain เป็นต้น และบางท่านเสนอให้ใช้บริการคลินิกปลูกผมอย่างไรก็ตามหากพิจารณาการใช้ยาเม็ดรับประทานอาจจะเห็นผลได้ชัดกว่าวิธีดังกล่าวข้างต้น

ปัจจุบันยาที่ใช้รักษาภาวะผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านเนื่องจากกรรมพันธุ์ที่มีผลทางการแพทย์พิสูจน์ และผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกาว่าได้ผลในการรักษามีอยู่เพียง 2 ชนิดเท่านั้นคือ

1. ยาฟิแนสเทอไรด์ (Finasteride) ยานี้ออกฤทธิ์โดยการลดระดับฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) ซึ่งเป็นตัวกลางทำให้เกิดภาวะผมบาง ผมร่วง และศีรษะล้านในที่สุด โดยที่ภาวะเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้หากมีองค์ประกอบ 2 ส่วน คือ กรรมพันธุ์หรือยีนหัวล้านซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ และฮอร์โมนเพศชายหรือ Testosterone (T) ซึ่งพบได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย ฮอร์โมนนี้ผลิตจากลูกอัณฑะ และต่อมหมวกไต แล้วจึงเข้าสู่กระแสเลือด หลังจากนั้นจึงไหลเวียนไปสู่ส่วนต่าง ๆของร่างกาย โดยที่หนังศีรษะฮอร์โมนนี้จะถูกเปลี่ยนไปเป็น DHT โดยเอนไซม์ 5- alpha reductaseซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ และยาฟิแนสเทอไรด์จะออกฤทธิ์โดยการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ 5-alpha-reductase ทำให้ระดับของ DHT ทั้งในกระแสเลือด และที่เซลล์สร้างเส้นผมลดลงกว่า 60% จึงช่วยป้องกันมิให้เส้นผมมีขนาดเล็กลง และยังอาจทำให้เส้นผมมีขนาดโตขึ้นอีกด้วย ผลการรักษามีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการตอบสนองของยาในแต่ละบุคคล จากรายงานทางการแพทย์ระบุว่ายาตัวนื้ทำให้ผมหยุดร่วง และ ผมขึ้นใหม่อยู่ระหว่าง 66-88% ดังนั้นฟิแนสเทอไรด์จึงนับเป็นยาที่ค่อนข้างปลอดภัยและได้ผลดีโดยมีผลข้างเคียงที่อาจจะพบได้ดังต่อไปนี้
   • ความต้องการทางเพศและการแข็งตัวของอวัยวะเพศลดลง
   • ปริมาณน้ำอสุจิลดน้อยลง
   • เจ็บบริเวณเต้านมหรือเต้านมอาจโตขึ้นได้

อาการข้างเคียงเหล่านี้จะกลับคืนเป็นปกติเมื่อหยุดใช้ยา หรืออาจหายไปได้เองแม้ว่าจะกินยาอยู่ก็ตามและยานี้ต้องใช้เป็นระยะเวลานานจึงจะเห็นผล

2. ยาไมนอกซิติล (Minoxidil Lotion) ยานี้มีชื่อทางการค้ามากมายเนื่องจากผลิตออกมาจำหน่ายเป็นเวลานานกว่า 15 ปี ยาไมนอกซิติลนี้มีลักษณะเป็นน้ำ ใช้ได้ในทั้งเพศชายและหญิง ใช้ทาที่บริเวณหนังศีรษะที่มีผมเส้นบาง ๆ อยู่ ครั้งละ 1 มิลลิลิตร วันละ 2 ครั้ง ควรทาให้โดนหนังศีรษะเพื่อการออกฤทธิ์ของยาที่ดี ยานี้ค่อนข้างปลอดภัยและได้ผลดีเช่นกัน

อย่างไรก็ตามหากจะตัดสินว่ายากปลูกผมที่ได้ผลดีที่สุดคือยาชนิดใด ต้องขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อยาของแต่ละบุคคลด้วย

แนวทางเลือก ทำหน้าเรียว ที่ไหนดี ?

ถ้าหากกำลังวางแผนทำศัลยกรรมเสริมความงาม สิ่งแรกที่ต้องหยิบมาพิจารณา คือ ความชำนาญของศัลยแพทย์ รวมไปถึงคลินิกหรือสถานบันความงามที่กำลังสนใจว่ามีใบอนุญาตประกอบกิจการหรือไม่ มีคุณสมบัติครบตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด บุคลากรเชี่ยวชาญให้บริการแบบมืออาชีพ อุปกรณ์การแพทย์ได้มาตรฐาน และความสะอาดของสถานประกอบกิจการ เพื่อให้ผลลัพธ์หลังศัลยกรรมที่ดีที่สุด

ซึ่งศัลยแพทย์หลายท่านดำเนินการผ่าตัดทำศัลยกรรมที่คลินิก ดังนั้นคลินิกจึงต้องมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ยาและเครื่องมือทางการแพทย์ที่จำเป็น เพื่อป้องกันการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อน พร้อมแนวทางการรับมือในภาวะฉุกเฉินด้วย

นอกจากนี้พนักงานในคลินิกควรเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นมืออาชีพ เมื่ออยู่ในขั้นตอนเลือกคลินิกเสริมความงาม ต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการผ่าตัดทำศัลยกรรมและช่วงพักฟื้น โดยพิจารณา ทำหน้าเรียว ทีไหนดี ดังนี้

1. ศัลยแพทย์ต้องมีใบประกอบวิชาชีพเพื่อจะมั่นใจว่าหมอที่ทำการผ่าตัดให้นั้นได้ผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งจุดเริ่มต้นที่ดีในการตรวจสอบว่าคลินิกหรือสถาบันเสริมความงามนั้น ๆ มีคุณภาพมากแค่ไหน
2. คลินิกศัลยกรรมเสริมความงามมีใบอนุญาตประกอบกิจการหรือไม่เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของคลินิกศัลกรรมเถื่อน
3. คลินิกมีอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่จำเป็นเช่น เครื่องวัดความดันโลหิต เครื่องตรวจคลื่นหัวใจ และอุปกรณ์กู้ชีพ เพราะบางส่วนของอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่กล่าวมานั้นจำเป็นสำหรับการดูแลความปลอดภัยของผู้รับการผ่าตัดตั้งแต่พื้นฐานไปถึงกรณีฉุกเฉิน
4. ประเมินความสะอาดของคลินิกแห่งนั้นตั้งแต่พื้นจนถึงผนังห้อง อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ มีความสะอาดและได้รับการดูแลอย่างดีหรือไม่
5. สอบถาม ขอคำแนะนำ และพูดคุยกับศัลยแพทย์อย่างละเอียดก่อนที่จะยอมเข้ารับการศัลยกรรม

โดยทั่วไปคลินิกศัลยกรรมเสริมความงามที่มีคุณภาพมักมีบริการให้คำปรึกษาฟรีสำหรับลูกค้าดังนั้นควรใช้ประโยชน์จากตรงนี้สอบถามเพื่อพิจารณาประเมินความสามารถของศัลยแพทย์และพนักงาน รวมไปถึงมาตรฐานการให้บริการของคลินิกนั้นๆ ด้วย

นอกจากนี้ควรหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตเพื่อตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับคลินิกหรือสถาบันความงามที่จะเข้าใช้บริการ ซึ่งมีหลายเว็บไซต์น่าเชื่อถือที่อนุญาตให้คนไข้ให้คะแนนการดำเนินงานของศัลยแพทย์ และกระบวนการสำหรับการศัลยกรรม รวมทั้งการให้บริการของคลินิกหรือสถาบันเสริมความงามด้วย

แนะนำคลินิก ทำหน้าเรียว ที่ไหนดี

• วุฒิศักดิ์ คลินิก

เว็บไซต์ :http://www.wuttisakclinic.com/

• นิติพล คลินิก

เว็บไซต์ : http://www.nitiponclinic.com/

• ราชเทวีคลินิก

เว็บไซต์ : http://www.rcskinclinic.com/

• เมโทร บางกอก คลินิก

        เว็บไซต์ : http://www.metrobangkokclinic.com/

• โรงพยาบาลเลอลักษณ์

เว็บไซต์ : http://lelux.co.th/th/home/

• เอเม่ คลินิก

เว็บไซต์ : http://www.aimeclinic.com/

• พัชราคลินิก

เว็บไซต์ : http://www.patcharaclinic.net/

คำเตือน! เมื่อมองหาคลินิก ศัลยกรรม

อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาของคลินิกเสริมความงาม เพราะโปรโมชั่นล่อตาล่อใจเหล่านี้อาจทำให้คุณวางใจ และมองข้ามขั้นตอนตรวจสอบมาตรฐานการให้บริการของคลินิกได้ จงจำไว้ว่าศัลยแพทย์สามารถเปิดคลินิกศัลยกรรมได้ ไม่ได้หมายความว่าแพทย์ท่านนั้นผ่านการรับรองและมีประสบการณ์มากเพียงพอที่จะดำเนินการผ่าตัดศัลยกรรมได้